การติดเชื้อมิวคอร์ไมโคซิส (Mucormycosis) หรือที่รู้จักในชื่อเชื้อราดำ เป็นการติดเชื้อที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงทั่วอินเดียในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยในช่วงนี้ ยอดผู้ติดเชื้อมิวคอร์ไมโคซิสในอินเดียอยู่ที่กว่า 57,150 รายแล้ว และมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 54% และนอกเหนือจากการที่อินเดียมีผู้ป่วยโรคเบาหวานค่อนข้างสูงแล้ว ประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 (ปากีสถาน รัสเซีย เนปาล ชิลี บราซิล เป็นต้น) ก็เผชิญกับปัญหาเดียวกันนี้ด้วย พื้นที่ที่มีผู้ป่วยโรคเบาหวานจำนวนมากและมีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 สูง ควรตื่นตัวอยู่เสมอ
อย่างไรก็ดี การติดเชื้อมิวคอร์ไมโคซิสมักได้รับการวินิจฉัยช้าเกินไป ขณะที่โรคโควิด-19 ทำให้ระบบสุขภาพต้องแบกรับภาระหนักยืดเยื้อจนทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก โดยในฐานะบริษัทที่มุ่งวิจัยและมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับโรคติดต่อสำคัญของโลก ด้วยพันธกิจในการวินิจฉัยโรคได้เร็วกว่า ถูกต้องแม่นยำกว่า สะดวกสบายกว่า และราคาเอื้อมถึงมากยิ่งขึ้นFapon Biotech Inc. (Fapon Biotech) จึงขอเรียกร้องให้มีการร่วมมือกับพันธมิตรในแวดวงวิชาการและภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมพัฒนาชุดวินิจฉัยการติดเชื้อมิวคอร์ไมโคซิสที่จะเข้ามาลดปัญหาท้าทาย ด้วยการแบ่งปันขีดความสามารถของแพลตฟอร์มการพัฒนาวัตถุดิบต้นน้ำและแพลตฟอร์มการใช้ตัวทำปฏิกิริยาระดับปลายน้ำ
Fapon Biotech เป็นซัพพลายเออร์วัตถุดิบตัวทำปฏิกิริยาโควิด-19 สำคัญรายหนึ่ง ด้วยประสบการณ์อันเป็นที่ประจักษ์ในการช่วยให้พันธมิตรเปิดตัวสารทำปฏิกิริยาโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองได้ในเวลาอันสั้น บริษัทมีพันธมิตร IVD กว่า 1000 รายทั่วโลก ด้วยการทำธุรกิจมานานกว่า 10 ปีในอินเดีย แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของบริษัทสอดรับกับกระบวนการวิจัยและพัฒนาของพันธมิตรได้อย่างง่ายดาย และให้การสนับสนุนตั้งแต่การค้นคว้าตัวบ่งชี้ทางชีวภาพไปจนถึงการวางจำหน่าย Fapon Biotech มีแพลตฟอร์มการใช้งานหลากหลาย (Colloidal Gold/Immunofluorescence/ELISA/CLIA/Latex-Enhanced Immunoturbidimetry/PCR/อื่น ๆ) ทำให้ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพดำเนินการพัฒนาการใช้งานเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว สำหรับพันธมิตรที่เผชิญกับความท้าทายในการผลิตนั้น ก็มีบริการ OEM และบริการรับจ้างผลิตด้วยกำลังการผลิตแตะหลักหลายร้อยกรัมต่อแบตช์ด้วย ความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับห้องปฏิบัติการและผู้ผลิต IVD ในอินเดียจึงทำให้ความร่วมมือกับ Fapon Biotech นำไปสู่การเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสทางการค้าเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างทางคลินิกสำหรับการวิจัยและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ การนำเทคโนโลยีไปใช้ การเปิดตัวและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ และอื่น ๆ
เมื่อไวรัสยังคงกลายพันธุ์และก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาจนทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง เช่น การติดเชื้อมิวคอร์ไมโคซิส การตอบสนองอย่างรวดเร็วผ่านความร่วมมือระดับโลกจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพื้นที่ที่ระบบสุขภาพแบกรับภาระมากเกินไป Fapon Biotech มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าในการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร IVD ทั่วโลก
เกี่ยวกับ Fapon Biotech
Fapon Biotech ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 โดยดำเนินธุรกิจด้วยพันธกิจในการ “วินิจฉัยโรคได้เร็วกว่า ถูกต้องแม่นยำกว่า สะดวกสบายกว่า และราคาเอื้อมถึงมากยิ่งขึ้น” บริษัทให้ความสำคัญกับความต้องการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพในอนาคต และนำเสนอวัตถุดิบตัวทำปฏิกิริยา IVD สมรรถนะสูงให้แก่บริษัทด้านการวินิจฉัยทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแอนติเจน แอนติบอดี และเอ็นไซม์ ไปจนถึงโซลูชันแบบครบวงจรด้วยบริการอุปกรณ์เครื่องมือและตัวทำปฏิกิริยา
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1537054/Fapon_Biotech.jpg
คำบรรยายภาพ – Fapon Biotech ขอเรียกร้องให้มีการร่วมมือกับพันธมิตรในแวดวงวิชาการและภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมพัฒนาชุดวินิจฉัยการติดเชื้อมิวคอร์ไมโคซิสที่จะเข้ามาลดปัญหาท้าทาย ด้วยการแบ่งปันขีดความสามารถของแพลตฟอร์มการพัฒนาวัตถุดิบต้นน้ำและแพลตฟอร์มการใช้ตัวทำปฏิกิริยาระดับปลายน้ำ