Comviva เปิดตัว mobiquity(R) Pay X แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลพร้อมระบบชำระเงินแห่งยุคใหม่

Comviva ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ประกาศเปิดตัว mobiquity(R) Pay X แพลตฟอร์มกระเป๋าเงินดิจิทัลและการชำระเงิน โดย mobiquity(R) Pay X ติดอันดับแพลตฟอร์มบริการทางการเงินระบบดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเสริมประสิทธิภาพให้แก่ระบบกระเป๋าเงินดิจิทัลและการชำระเงินกว่า 70 บริการให้แก่ลูกค้ากว่า 130 ล้านราย พร้อมประมวลผลการทำธุรกรรมกว่า 7 พันล้านธุรกรรมที่มีมูลค่ากว่า 1.30 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีในกว่า 50 ประเทศ

ด้วยแพลตฟอร์ม mobiquity(R) Pay X แห่งยุคหน้า Comviva จึงได้ปรับปรุงโซลูชันทางการเงินในระบบดิจิทัลในทุกๆ ด้านให้ดีขึ้น ทั้งความสามารถในการรองรับการขยายตัว, การติดตั้ง และเวลาในการออกสู่ตลาดที่รวดเร็วขึ้น, การจัดการและประสบการณ์ของวงจรผู้ใช้ที่ง่ายขึ้น รวมถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

แพลตฟอร์มใหม่นี้พัฒนาบนสถาปัตยกรรมที่อิงบริการย่อย พร้อมองค์ประกอบที่เป็นอิสระและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ทั้งหมด mobiquity(R) Pay X ทำให้ Open API สามารถติดตั้งร่วมกับระบบจากภายนอก และระบบนิเวศทางการเงินส่วนขยายได้อย่างง่ายดาย และเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ แพลตฟอร์มนี้จึงนำเสนอแอปบนมือถือที่ทำงานได้ลื่นไหลและมีคุณภาพดีขึ้นสำหรับผู้บริโภค, ตัวแทน, ร้านค้า และผู้ใช้ในภาคธุรกิจอื่นๆ และยังมีระบบ User Management System (UMS) ที่ล้ำสมัย ซึ่งทำให้ผู้ใช้ในระบบหลังบ้านสามารถจัดการกับวงจรชีวิตโดยสมบูรณ์ของลูกค้า, ตัวแทน, ร้านค้า และผู้ใช้ในภาคธุรกิจอื่นๆได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ อินเตอร์เฟซของผู้ใช้ที่ใช้งานได้ง่าย, รูปแบบเทมเพลตที่กำหนดไว้แล้ว และการให้ฟีดแบ็คแบบเรียลไทม์ ยังช่วยให้สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

แพลตฟอร์มใหม่ตัวนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยอย่างเห็นได้ชัดด้วยโมดูลระบบยืนยันตัวตน และการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงของผู้ใช้ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นรอบด้านในการปรับรหัส PIN, รหัสลับ และกฎในการเข้าถึงที่หลากหลายตามข้อกำหนดได้อย่างสะดวกสบาย ขณะเดียวกัน ความสามารถในการจัดการสถานะของผู้ใช้งานในขั้นสูงยังช่วยระบุสถานะการใช้งานแบบแอคทีฟทั้งหมดและการล็อกอินจากผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์หลายตัว จากนั้นดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันการหลอกลวง

Srinivas Nidugondi รองประธานฝ่ายบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของ Comviva กล่าวในการเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ว่า “โควิดทำให้บริการทางการเงินระบบดิจิทัลขยายตัวเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และระบบนิเวศทางการเงินทั้งหมดก็กำลังเติบโตรวดเร็วมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ความจำเป็นด้านความต้องการของลูกค้าและสาธารณสุขกำลังผลักดันให้มีการใช้ระบบจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส ซึ่งแพลตฟอร์ม mobiquity(R) Pay X ของเราจะช่วยให้ผู้ให้บริการทางการเงินสามารถขยายบริการกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการชำระเงินของพวกเขาได้เร็วขึ้นอย่างราบรื่น ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ตัวนี้ Comviva ได้สร้างระบบอัตโนมัติให้กับขั้นตอนการส่งมอบซอฟต์แวร์ได้อย่างสมบูรณ์ จึงช่วยเร่งเวลาในการออกสู่ตลาดให้เร็วขึ้น”

mobiquity(R) Pay X มีระบบสั่งซื้อและชำระเงิน (Order and Payment System) ที่ทำให้ผู้บริโภคได้เห็นรายการธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยเครื่องมือชำระเงินต่างๆ อีกทั้งยังให้ข้อมูลการติดตามแบบครบวงจรเพื่อดูการทำธุรกรรมจ่ายเงินทั้งหมดในขั้นตอนต่างๆทุกขั้นตอน และยังทำให้ผู้ใช้ในระบบหลังบ้านสามารถมองเห็นสถานะการทำธุรกรรมชำระเงิน และค้นหาธุรกรรมที่ล้มเหลวหรือน่าสงสัยเพื่อจัดการแก้ไข เช่น การคืนเงิน เพื่อทำให้วงจรการสั่งซื้อ-ชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

แอปมือถือใหม่นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยใช้วิธีการออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุด และเต็มไปด้วยลูกเล่นต่างๆ เช่น การลงทะเบียนด้วยตนเอง, การล็อกอินโดยใช้ข้อมูลทางชีวภาพ, การใส่ข้อมูลประวัติส่วนตัว, การชำระเงินผ่านอุปกรณ์หลายตัว (ระบบวอลเล็ตแบบเติมเงิน, บัตร, บัญชีธนาคาร), ธุรกรรมที่ชอบทำ, รองรับสกุลเงินหลายสกุล, การแปลงค่าเงิน, การติดตามการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์, คะแนนโบนัสจากการแนะนำ, ตำแหน่งที่ตั้งร้านค้า/ตัวแทน, รหัส QR แบบไดนามิก และอื่นๆอีกมากมาย

ด้วยระบบการเฝ้าสังเกตและระบบเตือนที่ดีขึ้น mobiquity(R) Pay X จึงรวมข้อมูลการใช้ระบบ และข้อมูลการบ่งชี้ประสิทธิภาพการทำงานที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมตัวแปรสำคัญในการปฏิบัติการที่สำคัญแบบเรียลไทม์ผ่านแดชบอร์ดที่เป็นรูปภาพ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการจัดการเหตุร้ายแบบเชิงรุกด้วยการกำหนดเกณฑ์ในการละเมิดการใช้งานที่สำคัญและตัวแปรระบบไว้ล่วงหน้า พร้อมแจ้งเตือนแบบล่วงหน้าเพื่อจัดการแก้ไข

Comviva มีเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมที่สุดแบบครบวงจรในด้าน KYC ระบบดิจิทัล และ Personal Financial Management (PFM) เพื่อมอบคุณค่าที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า โดยโซลูชันที่ครบวงจรเหล่านี้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ทั้งยังลดต้นทุนและเวลาออกสู่ตลาดลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเปิดตัวบริการกระเป๋าเงินดิจิทัล นอกจากนี้ แพลตฟอร์มนี้ยังมีระบบจัดการเอกสารที่ทำให้ผู้ใช้ระบบหลังบ้านมีความยืดหยุ่นในการกู้เอกสาร KYC ได้ในทันที เพื่อเก็บไว้ในคลังเก็บเอกสารส่วนกลางสำหรับจุดประสงค์ตามกฎระเบียบและธุรกิจ

กรุณาติดต่อ:

Sundeep Mehta
Comviva
sundeep.mehta@comviva.com

โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/995982/Comviva_Logo.jpg

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *