การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 หรือ COP27 ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม ณ เมืองชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยในระหว่างการประชุมปีนี้ ลอนจี (LONGi) ได้เผยแพร่สมุดปกขาวว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพอากาศฉบับที่ 2 และนำเสนอโมดูลซีรีส์ Hi-MO 6 รุ่นล่าสุดที่กรีนโซน (Green Zone) ร่วมกับมูลนิธิว่านเคอ (Vanke Foundation) และโครงการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขององค์กรบริษัทจีน (China Corporate Climate Action หรือ CCCA) โดย LONGi มีความมุ่งมั่นในด้านการพลิกโฉมสู่การใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
ลอนจีซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ได้แสดงจุดยืนของบริษัทในการเสวนาระดับผู้นำในหัวข้อ “การบุกเบิกการดำเนินการของภาครัฐและเอกชนเพื่อโลกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น” (Trailblazing Public-Private Action for a More Resilient World) ในงานโซลูชัน เดย์ (Solutions Day) ซึ่งจัดโดยประธาน COP27 ผ่านความร่วมมือกับฟอรัมธุรกิจนโยบายวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ (UN-SPBF) ว่าด้วยสิ่งแวดล้อม
เดนนิส เชอ (Dennis She) รองประธานของลอนจี ได้เข้าร่วมการอภิปรายในหัวข้อ “การสร้างแรงจูงใจส่งเสริมเศรษฐกิจที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพอากาศด้วยเทคโนโลยี สู่ความร่วมมือและการดำเนินการของภาครัฐและเอกชนที่มากขึ้น” (Incentivizing Technology-focused, Climate-sensitive Economies Towards Greater Partnership and Public-Private Action) ร่วมกับเจมส์ มินยูเป (James Mnyupe) ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีนามิเบีย, เชอรีน ซอร์บา (Shereen Zorba) หัวหน้าสำนักเลขาธิการระดับโลกแห่งฟอรัมธุรกิจ-นโยบาย-วิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อม; ดร. ออมเนีย เอล ออมรานี (Omnia El Omrani) ทูตเยาวชน COP27, ยอสซี มาเทียส (Yossi Matias) รองประธานฝ่ายวิศวกรรมและการวิจัยของกูเกิล (Google), นิโคล คาริมี (Nicole Karimi) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของอันตันการา กรุ๊ป (Antankara Group) และโจเอ ออกุสโต ริเบโร นาร์เดส (Joao Augusto Ribeiro Nardes) รัฐมนตรีศาลบัญชีกลาง (TCU) ของบราซิล การอภิปรายระดับสูงนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนมุมมองของผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำองค์กร ชุมชนการเงิน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ และสมาชิกของสังคมที่มีความโดดเด่น
ในการอภิปรายดังกล่าว คุณเดนนิส เชอ ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตของความนิยมด้านพลังงานหมุนเวียน เขากล่าวว่า “สิ่งที่ผมเห็นในแนวหน้าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ คือการลงทุนด้านการวิจัย พัฒนา และผลิตพลังงานหมุนเวียนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แม้จะเผชิญกับผลกระทบมากมายในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่กำลังการผลิตติดตั้งของพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นราว 30% ต่อปี ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์จึงลดลงมากกว่า 90% เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่แล้ว โดยในปัจจุบัน พลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นพลังงานที่ประหยัดมากที่สุดในหลายพื้นที่ทั่วโลก”
“ยกตัวอย่างเช่นในเยอรมนี พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน และใช้เวลาเพียง 2 เดือนสำหรับการติดตั้งสถานีผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์บนพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งลอนจีมั่นใจว่าพลังงานหมุนเวียนจะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายต่อจากนี้” เดนนิส เชอ กล่าวเสริม
ปีนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 50 ปีของนโยบายพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Multilateralism) อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลกยังไม่มีแนวโน้มที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมใด ๆ ได้ รวมถึงเป้าหมายที่ระบุไว้ในความตกลงปารีส โดยการประชุม COP27 ในปีนี้เกิดขึ้นภายใต้สโลแกน “ร่วมมือกันเพื่อดำเนินการ” (Together for Implementation) และประธานการประชุมก็มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะก้าวไปให้ไกลกว่าแค่การให้คำมั่นสัญญา และเดินหน้าต่อไปด้วยการลงมือที่สร้างความเปลี่ยนแปลงจริง
สำหรับคำถามที่ว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถทำอะไรได้อีกบ้างเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน คุณเดนนิส เชอ กล่าวว่า “ประการแรกนั้น เราขอเรียกร้องให้ทุกประเทศหยุดมอบเงินอุดหนุนพลังงานฟอสซิลแบบดั้งเดิม และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปกับการดำเนินการด้านสภาพอากาศอย่างเร่งด่วน ทุกวันนี้พลังงานหมุนเวียนได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และมันไม่มีเหตุผลที่เราจะให้การอุดหนุนพลังงานฟอสซิลต่อไป ส่วนประการที่สอง เราหวังว่าขั้นตอนการอนุมัติโครงการพลังงานหมุนเวียนจะมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อเรามีโซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่มีความเหมาะสมทั้งทางเทคนิคและทางเศรษฐกิจ ก็จะช่วยสร้างความหวังที่ว่า เราจะไม่เสียเวลากับสิ่งอื่น ๆ นอกจากตัวโครงการเหล่านี้ และประการที่สาม เราหวังว่าฝ่ายต่าง ๆ จะไม่นำพลังงานหมุนเวียนและสินค้าสาธารณะของมวลมนุษยชาติมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง”
นอกจากนี้ เดนนิส เชอ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญในด้านการดำเนินการด้านสภาพอากาศโลก เพื่อพัฒนาความสามารถและยกระดับทักษะ โดยกล่าวว่า การส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกต้องการวิศวกรท้องถิ่นและผู้มีความสามารถทางธุรกิจจำนวนมหาศาล “เราได้จัดตั้งแคมป์ฝึกอบรมในหลายพื้นที่ทั่วโลก เพื่อฝึกอบรมวิศวกรท้องถิ่นและบ่มเพาะผู้มีความสามารถทางธุรกิจ เราหวังว่าจะสามารถสร้างความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการฝึกอบรมผู้มีความสามารถมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในทุก ๆ ที่” ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก ลอนจีไม่เพียงแต่จัดหาโมดูลโซลาร์เซลล์และโซลูชันพลังงานสีเขียวให้กับคนทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเชื่อมั่นว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีจะสามารถช่วยให้มนุษยชาติบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อีกด้วย
เกี่ยวกับลอนจี
ลอนจีก่อตั้งขึ้นในปี 2543 โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก ลอนจีมุ่งเน้นที่การสร้างคุณค่าโดยมีความต้องการของลูกค้าเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ
ลอนจีมีพันธกิจในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างโลกสีเขียว (making the best of solar energy to build a green world) ทั้งยังอุทิศตนเพื่อสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี โดยได้ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมา 5 ภาคส่วน ประกอบไปด้วยเซลล์และโมดูลโมโนซิลิคอนเวเฟอร์ โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม โซลูชันพลังงานสีเขียว รวมถึงอุปกรณ์ไฮโดรเจน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ขยายขีดความสามารถในการจัดหาพลังงานสะอาดโดยเมื่อไม่นานมานี้ได้นำโซลูชันและผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาพัฒนาและประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ทั่วโลก www.longi.com
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1962317/COP27_Solutions_Day.jpg