รายงานโดย Huanqiu.com
สำนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของมณฑลกุ้ยโจว เปิดเผยว่า ในปี 2564 คุณภาพน้ำผิวดินโดยรวมของมณฑลกุ้ยโจวอยู่ในระดับ “ดีเยี่ยม” และ 97.7% ของน้ำในแม่น้ำส่วนที่มีการตรวจสอบมีคุณภาพดี ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวต้องอาศัยความพยายามร่วมกันของรัฐบาลมณฑลกุ้ยโจว
ความพยายามของมณฑลกุ้ยโจวในการบริหารจัดการและปกป้องระบบนิเวศได้สร้างความประทับใจอย่างมากให้กับชาวต่างชาติ โดยคุณราฟาเอล เดซกายาร์ (Rafael Dezcallar) เอกอัครราชทูตสเปนประจำประเทศจีน กล่าวว่า มณฑลกุ้ยโจวใช้แนวทางที่สร้างสรรค์ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง
ในอำเภอไคหยาง มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน บรรดาบริษัททำเหมืองหินฟอสฟอรัสและสถานประกอบการผลิตได้หายไปแล้วในตอนนี้ “สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในท้องถิ่นดีขึ้นมาก ตอนนี้ไม่มีกลิ่นฟอสฟอรัสแล้ว ขณะที่ฝุ่นและเสียงรบกวนก็ลดลงด้วย” คุณโกว เฉียนชวง ผู้อยู่อาศัยในอำเภอไคหยาง ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในบ้านเกิด โดยเฉพาะในแม่น้ำหยางซุย
แม่น้ำหยางซุยคือแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำอู่ ในช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมา บรรดาบริษัทที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ ส่งผลให้แม่น้ำปนเปื้อนฟอสฟอรัสในระดับที่สูงมาก
เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำในแม่น้ำหยางซุย มณฑลกุ้ยโจวได้นำระบบหัวหน้าผู้ดูแลแม่น้ำ (River Chief System หรือ RCS) มาใช้อย่างเคร่งครัด พร้อมกับใช้ระเบียบข้อบังคับใหม่ และปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังจากการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ระดับฟอสฟอรัสในแม่น้ำหยางซุยลดลงจากประมาณ 8.0 มิลลิกรัม/ลิตร เหลือเพียง 0.2 มิลลิกรัม/ลิตร และคุณภาพน้ำก็เพิ่มขึ้นสู่เกรด 3 โดยแม่น้ำหยางซุยที่สะอาดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติเชิงบวกของมณฑลกุ้ยโจวที่มีต่ออารยธรรมทางนิเวศวิทยา
นอกเหนือจากการอนุรักษ์น้ำแล้ว มณฑลกุ้ยโจวยังส่งเสริมนวัตกรรมการปกป้องพืชอีกด้วย โดยในเมืองอันซุน มณฑลกุ้ยโจว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้าเพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้โบราณ และทำแผ่นป้ายคิวอาร์โค้ด
“เมื่อเราสแกนคิวอาร์โค้ดก็จะสามารถดูข้อมูลพื้นฐานของต้นไม้โบราณเหล่านี้ได้ เช่น ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ สถานะการเจริญเติบโต และรูปภาพความละเอียดสูง ด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถทำความเข้าใจและปกป้องต้นไม้ได้ดีขึ้น” คุณฟาง หมิง ซึ่งเป็นคนในท้องถิ่น กล่าว ปัจจุบัน ต้นไม้โบราณกว่า 1,300 ต้นมีบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยให้งานอนุรักษ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในแง่ของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มณฑลกุ้ยโจวยังให้ความสำคัญกับกิจวัตรประจำวันของพลเมือง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเดินเข้าไปในย่านขายอาหารในเขตจงซาน เมืองลิ่วผานสุ่ย ลูกค้าจะพบว่าร้านอาหารแต่ละแห่งได้ติดตั้งเครื่องกำจัดไอน้ำมันใหม่เอี่ยม
นอกจากนี้ เขตจงซานได้ติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบครบวงจร หากระดับมลพิษทางอากาศเกินขีดจำกัดความปลอดภัย สัญญาณเตือนจะทำงานโดยอัตโนมัติ จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแจ้งให้สถานประกอบการทราบอย่างรวดเร็วและใช้มาตรการควบคุมมลพิษอย่างทันท่วงที
มณฑลกุ้ยโจวให้ความสำคัญกับระบบนิเวศเป็นหลักในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ในช่วงแผนพัฒนาห้าปีฉบับที่ 13 ของจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ให้ความสนใจอย่างมากกับการสร้างอารยธรรมทางนิเวศวิทยาในมณฑลกุ้ยโจว และออกคำสั่งสำคัญมากมาย โดยแนวความคิด “น้ำใสสะอาดและภูเขาเขียวขจีมีค่าดั่งเงินทองกองเป็นภูเขา” มีส่วนสำคัญในการพลิกโฉมกระบวนการพัฒนาของมณฑลกุ้ยโจว
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มณฑลกุ้ยโจวถือว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและการปกป้องสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญเท่าเทียมกัน โดยสำนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของมณฑลกุ้ยโจวระบุว่า คุณภาพสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาโดยทั่วไปอยู่ในระดับดีและมีเสถียรภาพในปี 2564
นอกจากคุณภาพน้ำแล้ว มณฑลกุ้ยโจวยังมีคุณภาพอากาศดีเยี่ยม โดยจำนวนวันเฉลี่ยที่มีการรายงานดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ใน 9 เมืองใหญ่ อยู่ที่ 98.4%
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น อัตราการเติบโตของพื้นที่ป่าและจำนวนพื้นที่ปลูกป่าของมณฑลกุ้ยโจวยังรั้งอันดับหนึ่งในประเทศจีน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มณฑลกุ้ยโจวปลูกป่าไปทั้งสิ้น 50.97 ล้านหมู่ (mu) (ราว 3.4 ล้านเฮกตาร์) และมีอัตราความครอบคลุมของพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นจาก 47% เป็น 62.12%
สำนักป่าไม้ของมณฑลกุ้ยโจวเปิดเผยว่า มณฑลกุ้ยโจวได้จัดตั้งเขตสงวนธรรมชาติหลายประเภทรวม 314 แห่ง และความสมบูรณ์ของความหลากหลายทางชีวภาพก็จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศ ขณะที่มูลค่าการผลิตของอุตสาหกรรมป่าไม้เพิ่มขึ้นจาก 4.01 หมื่นล้านหยวน สู่ระดับ 3.719 แสนล้านหยวน โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 เท่าในระยะเวลา 10 ปี
คุณเสิน อี้ฉิน เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกุ้ยโจว และประธานคณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนประจำมณฑลกุ้ยโจว กล่าวว่า “สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาที่ดีคือข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมณฑลกุ้ยโจว ดังนั้น เราต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป”