โครงการเฟอร์ทิลิตี เคานต์ส มุ่งชูผลลัพธ์ที่อัตราการเกิดต่ำมีต่อเศรษฐกิจและสังคมของเอเชียแปซิฟิก
ชุดเครื่องมือนโยบายการเจริญพันธุ์ซึ่งอีโคโนมิสต์ อิมแพกต์ เป็นผู้ออกแบบ และเมอร์คให้การสนับสนุน ให้คำแนะนำเรื่องนโยบายอย่างมีหลักฐานรองรับ เพื่อช่วยสร้างสังคมที่เอื้ออำนวยต่อครอบครัวทั่วเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น
เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่อย่างเฟอร์ทิลิตี เคานต์ส (Fertility Counts) ซึ่งมุ่งจัดการปัญหาท้าทายด้านสังคมและเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากอัตราการเกิดต่ำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) โครงการดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้ผลการศึกษาและทรัพยากร ให้เหล่าผู้กำหนดนโยบายนำไปปรับใช้กับนโยบายของตน เพื่อช่วยให้สร้างสังคมที่เอื้ออำนวยต่อครอบครัวต่าง ๆ ได้มากขึ้น
อัตราการเกิดของหลาย ๆ ประเทศในเอเชียแปซิฟิกลดลงอย่างมากในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อทั้งขนาดและโครงสร้างของประชากร จำนวนเด็กที่เกิดโดยเฉลี่ยต่อผู้หญิงหนึ่งคนทั่วทั้งภูมิภาคนั้นลดลงถึงสามเท่ามาตั้งแต่ปี 2503 จาก 5.4 ในปี 2503 เหลือเพียง 1.8 ในปี 2563[1] โดยที่บางประเทศลดลงมากยิ่งกว่านั้น แม้อัตราการเกิดที่ลดลงจะนำไปสู่โอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้หญิงทั่วภูมิภาค แต่ปัจจุบันหลายประเทศเผชิญกับความท้าทายในการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อมีกำลังแรงงานลดลง และการสร้างสมดุลกับความต้องการของสังคมสูงวัย[1]
“แนวโน้มที่เราเห็นเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะส่งผลระยะยาวต่อทุกส่วนของสังคม ทั้งเศรษฐกิจ ระบบการรักษาพยาบาล และการดูแลผู้สูงอายุในอนาคต” ศ.นพ. กำธร พฤกษานานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าว “ขณะนี้เราจำเป็นต้องสำรวจวิธีแก้ปัญหาเชิงนโยบายอย่างจริงจังในการรองรับและสนับสนุนผู้ที่ต้องการมีบุตร เพื่อจัดการกับปัจจัยขับเคลื่อนเบื้องหลังอัตราการเกิดที่ลดลง”
ชุดเครื่องมือนโยบายการเจริญพันธุ์ (Fertility Policy Toolkit) ซึ่งอีโคโนมิสต์ อิมแพกต์ (Economist Impact) เป็นผู้ออกแบบ และเมอร์คให้การสนับสนุน ได้รับคำแนะนำจากคณะนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทางคลินิก และผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐทั่วเอเชียแปซิฟิก ชุดเครื่องมือนี้มุ่งเน้นไปที่นโยบายใน 4 หมวดด้วยกัน ได้แก่ การดูแลเด็ก สถานที่ทำงาน สิ่งจูงใจทางการเงิน และมาตรการช่วยการเจริญพันธุ์ ทั้งยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับนโยบายที่ควรได้รับการพิจารณา ตลอดจนตัวอย่างการนำนโยบายเหล่านี้ไปปฏิบัติในประเทศต่าง ๆ โดยพิจารณาจากสถานะการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนั้น ๆ
“แนวโน้มประชากรมีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง โดยเมื่อเด็กที่เกิดมีจำนวนน้อยลงขณะที่อายุขัยเพิ่มขึ้น หลาย ๆ ประเทศจึงต้องสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของประชากรสูงอายุกับแรงงานที่ลดลง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ เราจะสร้างสังคมที่เติบโตและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปได้อย่างไร นั่นคือคำถามที่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเผชิญอยู่” ลิซ เฮนเดอร์สัน (Liz Henderson) รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเมอร์ค กรุ๊ป และหัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนในภาคดูแลสุขภาพ กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่เรามีความยินดีในการเปิดตัวโครงการเฟอร์ทิลิตี เคานต์ส เราหวังว่าทรัพยากรที่ได้รับจากโครงการริเริ่มนี้จะสนับสนุนการหารือ จุดประกายการเปลี่ยนแปลง และชูบทบาทสำคัญของการเจริญพันธุ์ในการรักษาอนาคตของประเทศชาติ”
นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ประจำโครงการเฟอร์ทิลิตี เคานต์ส ด้วย โดยดูได้ที่ www.fertilitycounts.com ซึ่งรวบรวมไว้ทั้งชุดเครื่องมือนโยบายการเจริญพันธุ์ การวิจัยที่เกี่ยวข้อง และทรัพยากรรองรับอนาคต
อ้างอิง
1. Economist Impact. Fertility policy and practice: a Toolkit for the Asia-Pacific region. ดูได้ที่: fertilitycounts.com เข้าถึงในเดือนพฤษภาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้
เกี่ยวกับเฟอร์ทิลิตี เคานต์ส
เฟอร์ทิลิตี เคานต์ส (Fertility Counts) เป็นโครงการริเริ่มใหม่โดยได้ข้อมูลจากภาคเอกชน ภาครัฐ และแวดวงวิชาการ เพื่อศึกษาผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากอัตราการเกิดที่ลดลง โครงการริเริ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้กำหนดนโยบายและผู้สนับสนุนให้ความสำคัญกับสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจและสังคม ในการรองรับและสนับสนุนผู้ที่ต้องการมีบุตร และส่งเสริมการเติบโตทางสังคมที่ยั่งยืนต่อไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.fertilitycounts.com
เกี่ยวกับชุดเครื่องมือนโยบายการเจริญพันธุ์
“นโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์: ชุดเครื่องมือสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” (Fertility policy and practice: a Toolkit for the Asia-Pacific region) เป็นรายงานจากอีโคโนมิสต์ อิมแพกต์ และได้รับการสนับสนุนจากเมอร์ค ชุดเครื่องมือดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้กำหนดนโยบายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ได้ข้อมูลหลักฐานที่นำไปใช้กำหนดนโยบายได้ เพื่อจัดการกับปัญหาอัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลง ชุดเครื่องมือนี้วิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายที่เป็นมิตรต่อเด็ก โดยอาศัยการทบทวนวรรณกรรมรายงานวิจัยทั่วโลกอย่างมีหลักฐานรองรับ ชุดเครื่องมือนี้ได้รับคำแนะนำจากคณะนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทางคลินิก และผู้เชี่ยวชาญภาครัฐในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลการวิจัยมาจากการศึกษาที่ดำเนินการในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม ดูชุดเครื่องมือนี้ได้ที่ www.fertilitycounts.com
บทบาทของเมอร์คในด้านการเจริญพันธุ์
เมอร์คสั่งสมความเชี่ยวชาญในด้านการมีบุตรมากว่า 60 ปี และเป็นผู้นำตลาดระดับโลกในด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก เมอร์คใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาและนำเสนอการบำบัดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ รวมถึงโซลูชันด้านสุขภาพแบบดิจิทัล เทคโนโลยีในห้องปฏิบัติการ และบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนได้เป็นพ่อแม่ตามที่ใฝ่ฝันในทุกช่วงของเส้นทางการเจริญพันธุ์ โดยนับจนถึงปัจจุบัน มีทารกมากกว่า 3.3 ล้านคนที่ได้ลืมตาดูโลกเพราะได้รับเทคโนโลยีรักษาภาวะมีบุตรยากของเมอร์ค
เกี่ยวกับเมอร์ค
เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ การดูแลสุขภาพ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยพนักงานกว่า 64,000 คนทำงานเพื่อสร้างความแตกต่างในเชิงบวกให้กับชีวิตของผู้คนนับล้านทุกวัน ด้วยการสร้างวิถีชีวิตที่สนุกสนานและยั่งยืนมากขึ้น ตั้งแต่การจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยเร่งการพัฒนาและการผลิตยา ตลอดจนการค้นพบวิธีการเฉพาะในการรักษาโรคที่ท้าทายที่สุด ไปจนถึงการทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ชาญฉลาด โดยบริษัทอยู่ในทุกหนแห่งบนโลก ในปี 2565 เมอร์คกวาดรายได้ไป 2.22 หมื่นล้านยูโรใน 66 ประเทศ
บริษัทฯ ครอบครองสิทธิ์ในชื่อและเครื่องหมายการค้า “เมอร์ค” ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ของเมอร์คดำเนินงานภายใต้ชื่ออีเอ็มดี เซโรโน (EMD Serono) ในวงการดูแลสุขภาพ, มิลลิพอร์ซิกมา (MilliporeSigma) ในวงการชีววิทยาศาสตร์ และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์ (EMD Performance Materials) การสำรวจทางวิทยาศาสตร์และการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คือหัวใจหลักในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมอร์คนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 ปัจจุบัน ครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เกี่ยวกับอีโคโนมิสต์ อิมแพกต์
อีโคโนมิสต์ อิมแพกต์ (Economist Impact) ผสานความเข้มงวดขององค์กรมันสมองเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์สื่อ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่มีอิทธิพลในระดับโลก เราเชื่อว่า ข้อมูลเชิงลึกที่มีหลักฐานรองรับจะก่อให้เกิดการอภิปราย ขยายมุมมองให้กว้างขึ้น และกระตุ้นความคืบหน้า บริการของอีโคโนมิสต์ อิมแพกต์ เคยเป็นบริการของดิ อีโคโนมิสต์ กรุ๊ป (The Economist Group) โดยใช้ชื่อแยกกัน ไม่ว่าจะเป็นอีไอยู ธอธ ลีดเดอร์ชิป (EIU Thought Leadership), อีไอยู พับลิก พอลิซี (EIU Public Policy), อีโคโนมิสต์ อีเวนต์ส (Economist Events) และซิกนัลนอยซ์ (SignalNoise) ผลงานการวิเคราะห์ของเรามีให้เห็นมาถึง 75 ปี ใน 205 ประเทศ โดยนอกเหนือจากการเล่าเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญในการจัดอีเวนต์ โซลูชันการคิดเชิงออกแบบ และผลิตภัณฑ์สื่อชั้นนำของตลาดแล้ว เรายังมีการออกแบบขอบข่ายงาน กำหนดมาตรฐาน วิเคราะห์ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและสังคม คาดการณ์และจำลองสถานการณ์ ทำให้บริการของอีโคโนมิสต์ อิมแพกต์ มีความโดดเด่นในตลาด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.economistimpact.com
โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/2076288/MERCK_pink_Logo.jpg