เนื่องในเดือนแห่งสิ่งแวดล้อมโลก เพาเวอร์บาย ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ต่อยอดโครงการ “เก่าแลกใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Circular Economy ด้วยการเปลี่ยนขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้กลายเป็นสื่อการเรียนรู้ ส่งมอบให้แก่มูลนิธิพระดาบส และโรงเรียนพระดาบส เพื่อใช้ในการพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของพันธกิจองค์กรในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นางสาวพัชราภรณ์ วรยิ่งยง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “เพาเวอร์บายมุ่งมั่นยกระดับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เราเล็งเห็นว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนคือหัวใจของการขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตอย่างสมดุล โครงการ ‘เก่าแลกใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ จึงเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างเพาเวอร์บาย และแบรนด์พันธมิตร เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมง่ายๆ ผ่านการบริจาคเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า พร้อมรับสิทธิพิเศษในการซื้อสินค้าใหม่”
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของลูกค้าที่หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการบริโภคอย่างมีจิตสำนึก โดยเพาเวอร์บายมุ่งเน้นให้โครงการเกิดคุณค่าใน 2 แกนหลัก ได้แก่:
- สิ่งแวดล้อม – ส่งเสริมการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง ลดปริมาณของเสียที่ยากต่อการย่อยสลาย พร้อมนำเข้าสู่กระบวนการใช้ซ้ำ (Reuse) หรือรีไซเคิล (Recycle) อย่างมีประสิทธิภาพ
- สังคมและการศึกษา – เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ผ่านการคัดแยกจะถูกส่งต่อให้มูลนิธิพระดาบส นำไปใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนรู้ในการฝึกอบรมด้านช่างไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปิดโอกาสให้เยาวชน และผู้เรียนได้พัฒนาทักษะที่สามารถต่อยอดสู่อาชีพในอนาคตอย่างมั่นคง
ด้วยเจตนารมณ์ในการเป็น “พลังเล็กๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่” เพาเวอร์บายยังคงเดินหน้าสื่อสาร สร้างความตระหนักรู้ และขยายผลโครงการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยมุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นต้นแบบของการเชื่อมโยงระหว่าง เทคโนโลยี คน และสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกและชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนต่อไป
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “เซ็นทรัล รีเทล”) เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก รวมทั้งธุรกิจค้าส่ง สินค้าหลากหลายประเภท ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-Format Multi-Category Omnichannel Retail และ Wholesale Platform) ในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,844 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค วัตถุดิบอาหาร รวมถึงสินค้าและบริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์แคร์ และโก โฮลเซลล์ ในประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ บิ๊กซี/ โก (GO!) ท็อปส์ มาร์เก็ต มินิ โก (go!) และ ลานชี มาร์ท (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่น มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ มุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 43 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ