ปัจจุบันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักโปรไบโอติกส์กันอีกแล้ว เพราะเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ทั้งมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย เพิ่มภูมิต้านคุ้มกัน ป้องกันเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัส ลดการอักเสบ ชะลอวัย ป้องกันมะเร็ง และยังสามารถลดคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคทางหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าการทานโปรไบโอติกส์ให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรจะต้องทานพร้อมอาหารเลี้ยงเชื้อโปรไบโอติกส์ นั้นก็คือ “พรีไบโอติกส์ (Prebiotics)” สารสำคัญทั้ง 2 ชนิดนี้ จะให้ประโยชน์ได้มากมายขนาดไหนเรามีคำตอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโปรไบโอติกส์มาให้ทุกคน
คุณขวัญ เภสัชกร สุทธิพงษ์ เผ้าหอม ผู้เชี่ยวชาญด้านโปรไบโอติกส์ เล่าว่า จุดเปลี่ยนที่ทำให้มาทำอาหารเสริม เพราะเราเคยทำงานทั้งร้านยา โรงพยาบาลรัฐฯ และโรงพยาบาลเอกชนมาก่อน เราก็รู้อยู่แล้วว่า มันมีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนไข้รวยกับคนไข้ยากจนค่อนข้างมาก คนไข้หลายคนหมอบอกควรกินยานั้นนะ เพื่อให้รักษาหายเร็วขึ้น แต่ด้วยความที่ราคาค่อนข้างแพงจึงทำให้เข้าถึงได้เฉพาะกลุ่มคนรวย แต่กลุ่มคนที่ไม่มีเงินซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศจะยังไม่สามารถเข้าถึงยาเหล่านั้นได้ เราจึงมีความคิดที่อยากจะผลิตเองเพื่อให้คนไข้ได้เข้าถึงได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย และทำไมถึงเลือกอาหารเสริมกลุ่มโรคกระเพาะ จุดเริ่มต้นเกิดจาการที่มีคนไข้มาเล่าให้ฟังว่า คุณหมอแนะนำตัวโปรไบโอติกส์ ให้มาลองกินดูช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน กรดเกิน ปรับสมดุลทางเดินอาหารได้นะ เพราะคนไข้รักษาด้วยยาแผนปัจจุบันมานานแล้วแต่ไม่ดีขึ้นเลย แต่ว่าคนไข้ไม่มีเงินเพราะราคาค่อนข้างแพงเกินกำลังที่คนไข้จะจ่ายได้ ณ เวลานั้นทำให้ผมคิดในใจว่า วันหนึ่งที่ถ้าผมมีกำลังในการผลิตสินค้าได้ ผมจะสร้างสินค้าที่มีเทคโนโลยีการผลิต การออกฤทธิ์ คุณภาพและประสิทธิภาพ แบบระดับโลกเลย แต่ในราคาที่คนไข้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มอยากทำธุรกิจด้านอาหารเสริมเพื่อสุขภาพครับ
คุณขวัญยังกล่าวต่อว่า “เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันก็มีระยะเวลาเกือบ 8 ปี อีกเหตุผลที่สนใจเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เพราะตัวผมเองเมื่อ 2 ปีก่อนมีภาวะเครียดหนักมาก สุดท้ายเครียดลงกระเพาะ เป็นแผลในกระเพาะ กรดไหลย้อน ท้องอืดแน่นท้องมาก กินอาหารไปก็ไม่ย่อย จนบางทีหายใจแทบไม่ออก ปวดท้อง กินอะไรก็ไม่ได้ แต่ท้องกลับป่อง เพราะลมในท้องเยอะ จนต้องไปเข้าโรงพยาบาล และทำการส่องกล้อง หมอบอกมีแผลในกระเพาะ และมีก้อนเนื้อที่ลำไส้ด้วย ณ เวลานั้นยอมรับเลยว่าผมกลัวมากสุดคือกลัวว่าก้อนเนื้อจะใหญ่ขึ้นกลายเป็นมะเร็ง ซึ่งตอนนั้นเองทำให้ผมเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่อง พรีไบโอติกส์ และโปรไบโอติกส์ อย่างจริงจัง จนมาพบกับงานวิจัยเริ่มออกมาบอกว่า โปรไบโอติกส์ ป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ จึงเริ่มศึกษาเพิ่มมากขึ้น และทำเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อให้คนไข้ทุกคนได้เข้าถึงด้วยเช่นกัน”
“ผมดูแลคนไข้เองทุกเคส รวมทั้งแก้ปัญหาให้กับผู้ป่วยเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพราะรู้สึกว่าได้ใช้ประสบการณ์ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่สุดที่สุด”
ปัจจุบันคนไข้ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการรักษาที่ถูกต้อง ทำให้ผมต้องแก้ปัญหาทุกวันเรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรักษาแบบผิดๆเริ่มจาก 1. คนไข้มักเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์อันไหน ๆ ก็เหมือนกัน 2. คิดว่าจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ทุกยี่ห้อเหมือนกันหมด แต่ความเป็นจริงคือ ต่างทั้งจำนวนสายพันธุ์ ต่างทั้งปริมาณ และนวัตกรรมที่ใช้ผลิต 3. คนไข้ขาดความรู้การใช้โปรไบโอติกส์ที่ถูกต้อง ส่วนมากมักจะดูข้อมูลเพียงแค่ด้านเดียวที่มีในเน็ตที่คนขายมักจะโชว์แต่แง่ดีของตัวเองเท่านั้น 4. มีการคิดว่าผมก็เหมือนพนักงานขายทั่วไป ที่ไม่คิดถึงหลักจรรยาบรรณเภสัชฯ มุ่งแต่ยอดขายอย่างเดียว ดังนั้นผมจึงจำเป็นที่จะต้องออกมาสื่อสารความเข้าใจเกี่ยวกับโปรไบโอติกส์ให้มากขึ้น รวมไปถึงการเลือกใช้โปรไบโอติกส์ที่ถูกต้อง
ดังนั้นหลักวิธีการเลือกคือ 1.ต้องเป็นสายพันธุ์ที่ใช้ทางการแพทย์ และผ่านการวิจัยแล้วว่าสามารถรักษาโรคนั้นๆได้อย่างตรงจุด ไม่ใช่จุลินทรีย์ก็ไหนก็ได้ 2.ต้องมีสายพันธุ์ให้มีความหลากหลายใกล้เคียงกับลำไส้ของคนเรามากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์นั้นเกิดผลเสียมากกว่าผลดี 3.จะต้องมีปริมาณที่เหมาะสมในขนาดที่ออกฤทธิ์ได้ ซึ่งขนาดที่แนะนำคือ 10,000 ล้านตัวขึ้นไป จึงจะเห็นประสิทธิภาพดี 4.เนื่องจากจุลินทรีย์จะถูกฆ่าตายได้ด้วยกรดในกระเพราะและกรดน้ำดีที่ลำไส้ ดังนั้นผลิตภัณฑ์จะต้องมีนวัตกรรมในการป้องกันกรดในกระเพาะและกรดน้ำดีที่ลำไส้ด้วย จึงจะกินไปแล้วไม่สูญเปล่า 5.จุลินทรีย์ที่นำมาใช้จะต้องมีความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอันตรายและก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา และควรได้รับการรับรองจาก อย.แล้วว่ามีความปลอดภัย 6.นอกจากจุลินทรีย์แล้วก็ควรมีอาหารของจุลินทรีย์ด้วย เพื่อเลี้ยงจุลินทรีย์ให้เจริญเติบโต และออกฤทธิ์อย่างเต็มที่
ด้วยเหตุผลทั้งหมดดังกล่าวทั้งหมด ผมจึงได้ผลิตโปรไบโอติกส์ “โปรมิกซ์” ออกมาสู่ท้องตลาด ด้วยคุณสมบัติของโปรไบโอติกส์ที่ควรจะเป็นทั้งหมด คือ โปรไบโอติกส์ทางการแพทย์มากถึง 14 สายพันธุ์ โดยมุ่งเน้นชนิดที่ออกฤทธิ์ที่ทางเดินอาหารเป็นหลัก ฟื้นฟูปรับสมดุลให้กลับมาเป็นปกติเร็วขึ้น แถมยังมีนวัตกรรมระดับโลกที่ป้องกันกรดในกระเพาะอาหารและกรดน้ำดีที่ลำไส้มาฆ่าจุลินทรีย์ตาย ช่วยให้โปรไบโอติกซ์ ทั้ง 24,000 ล้านตัวที่กินเข้าไป ทำงานออกฤทธิ์อย่างตรงจุดและเต็มประสิทธิภาพที่ลำไส้และทางเดินอาหารโดยตรง ไม่ต้องกลัว ว่ากินแล้วจะสูญเปล่า กินแล้วจะเสียเงินฟรีอีกต่อไป พร้อมให้การดูแล ให้คำปรึกษา ประเมินการรักษา ปรับขนาดการใช้ และแนะนำวิธีกินอย่างถูกต้องโดยเภสัชกรโดยตรง คืนสุขภาพช่องท้องและสุขภาพร่างกายดีๆ ของคุณกลับคืนมา ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งในอนาคต” คุณขวัญ เภสัชกร สุทธิพงษ์ เผ้าหอม ผู้เชี่ยวชาญด้านโปรไบโอติกส์ กล่าวทิ้งท้าย