ชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับนักแข่งที่ผนึกกำลังกับฟาบิโอ ซัลวิเนลลี จนคว้าชัยชนะจากฟอนตาเนลลา-โคเวลลี และเบโลเมตตี-เบอร์โกมี มาได้สำเร็จ
การแข่งขันรถคลาสสิกรายการมิเล มิเลีย (1,000 Miglia) ที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมาได้ปิดฉากลงแล้ว เมื่อทีมนักแข่งได้จับพวงมาลัยขับรถข้ามอิตาลีเป็นระยะทางถึง 2,200 กิโลเมตรตลอด 5 วันของการแข่งขัน ผ่านสายฝนชุ่มฉ่ำก่อนถึงกรุงโรม ผ่านแสงแดดแผดจ้าในอเลสซานเดรีย ผู้เข้าแข่งขันต่างได้แสดงฝีไม้ลายมือก่อนแวะพักที่เซอร์เวีย-มิลาโน มาริตติมา จากนั้นก็ได้วกกลับในเมืองหลวง เพื่อขับขึ้นไปยังปาร์มาและสิ้นสุดที่มิลาน โดยมีจุดเช็คทางผ่าน (Passage Control) ที่ปียัซซาดูโอโม (Piazza Duomo) และเดินทางมาถึงย่านซิตี้ไลฟ์ (City Life) เพื่อดื่มด่ำกับคืนสุดท้ายของการแข่งขันก่อนถึงเบรสเซีย
ท้ายที่สุดแล้วชัยชนะก็ยังตกเป็นของเจ้าเก่า ซึ่งคว้าชัยชนะเอาไว้ได้แม้มีสะดุดเล็กน้อยในบ่ายวันแรกของการแข่งขัน ตั้งแต่เริ่มเลกที่สอง พวกเขาก็ขึ้นแท่นผู้นำที่ต้องเอาชนะให้ได้ ขณะที่คู่แข่งที่เหลือต้องแข่งขันกันเพื่อช่วงชิงอันดับสองและสามไว้ให้ได้ โดยอันเดรอา เวสโก (Andrea Vesco) คว้าแชมป์รายการนี้มาได้ถึง 4 ปีซ้อน (จากทั้งหมด 6 ครั้ง) ในขณะที่ฟาบิโอ ซัลวิเนลลี (Fabio Salvinelli) คว้าชัยชนะมาได้ 3 ครั้ง เสมอกับจูเลียโน คาเน่ (Giuliano Cane) “ตอนเริ่มแข่งมีปัญหาท้าทายเยอะมาก” อันเดรอา เวสโก ประกาศหลังดับเครื่องแล้ว “จากนั้นเราก็ทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอโดยถูกตัดคะแนนน้อยมาก ปกติแล้วผมต้องแข่งกับพ่อถึงจะทำได้ดีเช่นนี้ ผมจึงภูมิใจมาก ๆ ที่สร้างประวัติศาสตร์ได้”
นอกเหนือจากรถอัลฟาโรเมโอ (Alfa Romeo) รุ่น 6C 1750 SS Zagato ปี 1929 ของผู้ชนะแล้ว บนโพเดียมยังมีรถแลนเซีย แลมบ์ดา (Lancia Lambda) รุ่น Spider Type 221 อีก 2 คันด้วยเช่นกัน โดยจิอันมาริโอ ฟอนตาเนลลา (Gianmario Fontanella) และแอนนามาเรีย โคเวลลี (Annamaria Covelli) คว้าอันดับเหนืออันเดรอา เบโลเมตตี (Andrea Belometti) และจิอันลูกา เบอร์โกมี (Gianluca Bergomi) มาได้ ขณะที่ทีมหญิงล้วนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคือซิลเวีย มารินี (Silvia Marini) และไอรีน เด ทอส (Irene Dei Tos) ในรถบูกัตติ (Bugatti) รุ่น T 40 ปี 1929 ซึ่งคว้ารางวัลทีมหญิงล้วนไปได้ โดยอยู่อันดับที่ 27 ในตารางรวม
สำหรับรางวัลมิเล มิเลีย กรีน (1000 Miglia Green) ตกเป็นของเปาโล ปิวา (Paolo Piva) และมัตเตโอ เฟอร์ราจลิโอ (Matteo Ferraglio) กับเทสลา (Tesla) รุ่น Model Y ซึ่งนำเหนือเมียร์โก แม็กนี (Mirco Magni) และลอรา คอนฟาโลนิเอรี (Laura Confalonieri) กับรถโพลสตาร์ 2 (Polestar 2) และอันโตนิโน อัซซาเรลโล (Antonino Azzarello) และสเตฟาโน ออร์ลันดินี (Stefano Orlandini) กับรถฟอร์ด มัสแตง มัค-อี (Ford Mustang Mach-E)
สุดท้ายนี้ อันเดรอา มิเลซี (Andrea Milesi) และจิออร์ดาโน มอซซี (Giordano Mozzi) คว้ารางวัลเฟอร์รารี่ ทริบิวต์ มิเล มิเลีย (Ferrari Tribute 1000 Miglia) มาได้ กับรถเอฟเอต สไปเดอร์ (F8 Spider) ส่วนอันดับสองตกเป็นของฟาบริซิโอ มาคาริโอ (Fabrizio Macario) และจิโอวานนา ดิ คอสตานโซ (Giovanna Di Costanzo) กับรถ 488 พิสตา (488 Pista) ปี 2019 และอันดับสามเป็นของเซเลสติโน (Celestino) และอันโตนิโอ ซานจิโอวานนี (Antonio Sangiovanni) ในรถเฟอร์รารี่ โรมา (Ferrari Roma) ปี 2021
อ่านผลทั้งหมดได้ที่
https://1000miglia.it/crono/2023/
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2104547/Mille_Miglia.jpg