จริยธรรมในการทำงาน ความสามารถในการสร้างสัมพันธ์ และความมุ่งมั่นในการทำงาน ทั้งหมดนี้คือแรงขับเคลื่อนที่สำคัญไปสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจ ซึ่งปรากฏในงานวิจัย Global Chief Executive Gender Equality ฉบับล่าสุดซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ที่งานประชุม HeForShe Summit โดยงานวิจัยดังกล่าว YPO จัดทำขึ้นร่วมกับ Financial Times และโครงการ HeForShe ขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women)
ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 10-22 มีนาคม 2564 โดยมีผู้บริหารระดับสูงที่เป็นสมาชิกของ YPO จำนวน 2,079 คน จาก 106 ประเทศเข้าร่วมตอบแบบสอบถาม ผลสำรวจดังกล่าวแสดงข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับอุปสรรคอันเนื่องมาจากเพศสภาพโดยเฉพาะ ซึ่งบรรดาผู้นำองค์กรเคยประสบมาในการก้าวไปสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ ผลสำรวจยังให้ข้อมูลเชิงปฎิบัติที่นำไปสู่การขจัดอุปสรรคดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางให้กับคนรุ่นใหม่
ข้อมูลสำคัญที่ได้จากการสำรวจมีดังนี้
โดยภาพรวม ผู้บริหารในธุรกิจระดับโลกซึ่งตอบแบบสำรวจ 57% ให้ความเห็นว่า บริษัทของตนมีความหลากหลายทางเพศมากขึ้นกว่า 5 ปีที่แล้วในระดับปานกลางถึงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เส้นทางขึ้นสู่ตำแหน่งของผู้บริหารหญิงใช้เวลานานกว่าชายโดยเฉลี่ย 2 ปี
บริษัทที่บริหารโดยผู้หญิงระบุว่า มีผู้หญิงเข้าร่วมองค์กรมากขึ้นทั้งในระดับผู้บริหารและในภาพรวมทั้งองค์กร โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่เป็นผู้หญิงเผยว่า 43% ของผู้บริหารระดับสูงในองค์กรเป็นผู้หญิง ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทที่บริหารโดยผู้ชาย จะมีผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงอยู่ที่ 26% ส่วนในระดับองค์กรนั้น บริษัทที่ผู้หญิงบริหาร จะมีพนักงานหญิง 48% ขณะที่บริษัทที่บริหารงานโดยผู้ชาย มีพนักงานหญิงอยู่ที่ 37%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหญิง 30% มีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับการรักษาสมดุลระหว่างการเป็นที่ชื่นชอบและการได้รับความเคารพ ส่วนอีก 20% ต้องรับมือกับอคติที่คนอื่นมีต่อตัวเองมากกว่าผู้บริหารชาย ตรงกันข้ามกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารชาย ซึ่งมีเพียง 9% ที่ต้องรับมือกับอคติของคนอื่นที่มีต่อตัวเอง
สำหรับประเด็นเรื่องความคาดหวังทางวัฒนธรรมที่มีต่อบทบาททางเพศ ผู้บริหารชาย 2% ระบุว่าเคยเผชิญกับความคาดหวังในลักษณะดังกล่าว ขณะที่มีผู้บริหารหญิง 47% เคยเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว
ผู้บริหารหญิง 73% ยอมลาออกหรือเสียสละความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเพื่อแลกกับความต้องการของครอบครัว เมื่อเทียบกับผู้บริหารชายซึ่งมีอยู่ที่ 42%
ผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นสมาชิกของ YPO ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับแนวทางที่ผู้นำองค์กรสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความเท่าเทียมกันในอนาคต อันประกอบด้วย
การจัดฝึกอบรมเรื่องอคติ
สนับสนุนการพิจารณาคัดเลือกให้ผู้หญิงเข้าทำงานก่อน
ส่งเสริมให้มีทางเลือกในการทำงานที่ยืดหยุ่น
สามารถดูผลสำรวจฉบับสมบูรณ์ได้ที่ YPO.org
ระเบียบวิธีดำเนินการสำรวจ Global Chief Executive Gender Equality Survey:
การสำรวจ Global Chief Executive Gender Equality ดำเนินการโดยสอบถามความคิดเห็นของสมาชิก YPO ตั้งแต่วันที่ 10-22 มีนาคม 2564 โดยใช้แบบสอบถามทางออนไลน์ ทั้งนี้ สมาชิก YPO ที่ตอบแบบสำรวจทั้ง 2,079 คน มีอายุระหว่าง 24-92 ปี ซึ่งสมาชิกในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าวถือเป็นตัวแทนสมาชิกส่วนใหญ่ของ YPO จาก 106 ประเทศ โดยในจำนวนนี้ 23% เป็นผู้หญิง ทั้งนี้ ค่าความคลาดเคลื่อนจากการสุ่มตัวอย่างอยู่ที่บวกหรือลบ 2.09% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
เกี่ยวกับ YPO: YPO คือองค์กรผู้นำระดับโลกที่เกิดจากการรวมตัวของผู้บริหารกว่า 30,000 คน ใน 142 ประเทศ ซึ่งมีความเชื่อร่วมกันว่าโลกต้องการผู้นำที่ดียิ่งขึ้น สมาชิกแต่ละคนล้วนประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเป็นผู้บริหารธุรกิจและองค์กรที่สร้างรายได้ต่อปีรวมกันสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สมาชิกของ YPO สร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนซึ่งกันและกันผ่านการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าในชุมชนที่เปิดกว้างและไว้เนื้อเชื่อใจกัน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ypo.org
โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/1065220/YPO_Logo.jpg