อุตสาหกรรมการปลูกท้อที่กำลังเฟื่องฟูส่งผลให้เกษตรกรในอำเภอเหมิงหยิน มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน มีชีวิตที่หอมหวานราวกับลูกท้อ และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงฤดูร้อน
อำเภอเหมิงหยินมีสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมและทำอุตสาหกรรมการปลูกท้อมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2520 จนกระทั่งเวลาผ่านมาแล้ว 40 ปี เหมิงหยินได้กลายเป็นอำเภอใหญ่ที่สุดในประเทศในแง่ของพื้นที่ปลูกท้อและผลผลิตท้อ
อุตสาหกรรมการปลูกท้อของอำเภอเหมิงหยินมีการพัฒนาคุณภาพสูง โดยมีการพัฒนาพื้นที่ปลูกท้อระดับพรีเมียม 500,000 หมู่ (mu) (ราว 33,333 เฮกตาร์) พร้อมกับจัดตั้งศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกท้อและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรกร ตลอดจนใช้แนวทางตามหลักวิทยาศาสตร์ในการดำเนินงาน
เพื่อรองรับความต้องการของตลาด อำเภอเหมิงหยินได้ปรับเปลี่ยนและปรับปรุงการปลูกท้ออย่างต่อเนื่อง โดยทุกปีจะมีการโปรโมตท้อสายพันธุ์ใหม่ 2-4 สายพันธุ์ทั่วประเทศ และอำเภอเหมิงหยินได้จำหน่ายท้อกว่า 200 สายพันธุ์สู่ตลาดตั้งแต่ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูหนาว
ด้วยความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเถาเป่า (Taobao) ผลผลิตท้อคุณภาพสูงจากอำเภอเหมิงหยินจึงเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศจีนและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ บังกลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และญี่ปุ่น โดยมีการซื้อขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซกว่า 80,000 รายการต่อวัน
นอกจากนี้ ความนิยมในลูกท้อที่เพิ่มมากขึ้นยังผลักดันให้การขนส่ง การจัดเก็บ การแปรรูป และการท่องเที่ยวชนบทได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในอำเภอเหมิงหยิน ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 100,000 คนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
นอกเหนือจากความพยายามในการผลักดันอุตสาหกรรมการปลูกท้อแล้ว อำเภอเหมิงหยินยังส่งเสริมการท่องเที่ยวชนบทด้วย โดยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนต่อปี ซึ่งสร้างรายได้กว่า 1 พันล้านหยวน (ราว 147.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/329537.html
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1879762/image1.jpg
คำบรรยายภาพ – เกษตรกรสองคนกำลังเก็บลูกท้อในอำเภอเหมิงหยิน มณฑลซานตง [เอื้อเฟื้อภาพโดย Xinhua Silk Road]