จังหวัดฟุกุชิมะใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น สามารถเดินทางด้วยชินคันเซ็นมาจากโตเกียวได้ในเวลาเพียง 90 นาทีและเป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ภูมิภาคโทโฮคุ โดยเฉพาะเมืองไอสึ วากามัตสึซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว หากมาเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะ เมืองนี้คือเมืองที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวเลย
นอกจากนี้ ใน “งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง & ทัวร์ (Visit Japan FIT Fair)” ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่ชั้น 5 สยามพารากอนระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะมีบูธจากจังหวัดฟุกุชิมะมาให้ข้อมูลการท่องเที่ยวใหม่ๆ ด้วย และวันนี้เราด็แอบนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วนมาฝากทุกคนค่ะ ไปสัมผัสกับความงามของทิวทัศน์ท่ามกลางหิมะและงานอีเวนต์ที่มีเฉพาะในฤดูหนาวกัน!
1 ปราสาทสึรุกะ
ปราสาทสึรุกะ เป็นปราสาทเดียวในญี่ปุ่นที่ใช้หลังคากระเบื้องสีแดง ตัวปราสาทและพื้นที่รอบข้างได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะเห็นต้นไม้ที่มีใบเขียวขจี ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้สีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาวจะได้ชมปราสาทที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะของบริษัทนำเที่ยวเลยค่ะ
การเดินทาง: จากป้ายรถบัสหน้าสถานีไอสึ วากามัตสึ ให้ขึ้นรถบัส ‘Haikarasan’ หรือ ‘Akabe’ มาลงที่ป้าย Tsuruga-jo San no Maruguchi
2 คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ
คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ เป็นบ้านของอดีตซามูไรในยุคเอโดะ ภายในอาคารถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น มาสัมผัสบรรยากาศที่ราวกับได้ย้อนเวลาไปในโลกของซามูไรเมืองไอสึกันค่ะ
การเดินทาง: ขึ้นรถบัส ‘Akabe’ มาลงที่ป้าย Aizu Bukeyashiki-Mae
ช่วงเวลาพิเศษ:เทศกาลเทียนประดับภาพวาดยูคิโฮตารุ
เทียนประดับภาพวาดไอสึ คืองานฝีมือที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของเมืองไอสึ มีทั้งลายดอกเบญจมาศ ดอกโบตั๋น และดอกบ๊วย ในอดีตเป็นที่นิยมมากในสังคมซามูไรญี่ปุ่น เทียนประดับภาพวาดไอสึแต่ละเล่มสร้างขึ้นอย่างประณีตด้วยฝีมือของช่างฝีมือ ถ้ามาในช่วงเทศกาล เราสามารถเดินชมเทียนวาดภาพอาอิซุได้ที่ปราสาทสึรุกะ คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ และสวนสมุนไพรโอยะคุเอ็น
สมุนไพรโอยะคุเอ็นคือโลกแห่ง “ความเงียบ” ในขณะที่ปราสาทสึรุกะจะนำเสนอโลกแห่ง “ความเคลื่อนไหว” ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยในปี 2568 เทศกาลจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 7 และวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ เทศกาลเทียนประดับภาพวาดจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ สถานที่สองแห่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าของคนเมืองไอสึค่ะ จะได้สัมผัสความงดงามของเปลวไฟที่ส่องแสงระยิบระยับได้อย่างเต็มที่เลย
3 ถนนสายนาโนะคะมาจิ
ในสมัยการปกครองแบบระบบศักดินา ถนนสายนาโนะคะมาจินอกจากจะเป็นประตูทางเข้าสู่ทิศตะวันตกของปราสาทแล้ว ยังเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมไปสู่เมืองอื่นอีกห้าสายด้วย ในอดีตจึงมีโรงเตี๊ยมและร้านอาหารเรียงราย
ปัจจุบันที่นี่ยังมีอาคารที่มีอายุมากกว่า 100 ปีให้เราได้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศวินเทจ มาสนุกไปกับการเดินเล่น แวะคาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกซึ่งยังคงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมบนถนนสายนี้กันนะคะ
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสายทาดามิจากสถานีไอสึ วากามัตสึ และลงที่สถานีนาโนะคะมาจิ
พิกัดแนะนำบนถนนสายนาโนะคะมาจิ:พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำยุคโชวะ
พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำยุคโชวะ ตั้งอยู่บนชั้นสองของร้านขายของวินเทจ “COTTON CLUB AIZU” ที่นี่จำลองบรรยากาศของยุคสมัยโชวะที่จะทำให้เราได้เห็นว่า “แม้จะอยู่ท่ามกลางความยากจน แต่ก็ยังมีจิตวิญญาณเต็มเปี่ยม” โดยสิ่งของที่จัดแสดงอย่างเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆ เป็นของที่เคยใช้จริงในอดีต และสิ่งที่นำมาจัดแสดงก็จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลด้วย
ที่พักแนะนำ:โรงแรมฮิกาชิยามะออนเซ็น มุไคทาคิ
ฮิกาชิยามะออนเซ็น เป็นย่านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไอสึ วากามัตสึ ส่วนโรงแรม “มุไคทาคิ”นั้นคือเรียวกังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของประเทศญี่ปุ่น ในเรียวกังนี้ยังคงรักษาบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นสวนญี่ปุ่นซึ่งอยู่ใจกลางท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปรายจากระเบียงได้ด้วย
การเดินทาง: นั่งรถบัส “Haikarasan” หรือ “Akabe” และลงที่ป้ายรถบัสสถานีฮิกาชิยามะออนเซ็น
บทความแนะนำพิกัดเที่ยวฤดูหนาว ณ เมืองไอสึ วากามัตสึจบลงเพียงเท่านี้ มาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำจากวิวหิมะสวยๆ และสถาปัตยกรรมย้อนยุคท่ามกลางฤดูหนาวกันนะคะ