ธุรกิจ

บ่งบอกความมุ่งมั่นในการฝ่าฟันและก้าวต่อเพื่อสะท้อนภาพของอนาคต Timex(R) (ไทม์เม็กซ์) ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของโลก เปิดตัวแคมเปญใหม่ WE DON’T STOP(TM) พร้อมอัปเดตสโลแกนของแบรนด์ “It takes a licking and keeps on ticking” อันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อถ่ายทอดมุมมองและเข้าถึงหัวใจของแบรนด์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นให้สอดรับกับศตวรรษที่ 21 ในการเปิดตัวแคมเปญใหม่ครั้งนี้ Timex ได้ดึงผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่โด่งดังคนใหม่ ๆ และเปี่ยมด้วยมุมมองอันสร้างสรรค์จากทั่วโลกมาเข้าร่วม โดยบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ซึ่งถ่ายทอดพลังใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับบุคคลอื่นจากการลงมือทำ นอกจากนี้ Timex ยังร่วมสนับสนุนแคมเปญ#TOGETHERBAND ด้วยการให้ความช่วยเหลือและบริจาคเพื่อการกุศลเพื่อขับเคลื่อนพันธกิจภายใต้แคมเปญ “We Don’t Stop” และสร้างพื้นที่ให้ฮีโร่ในชีวิตจริง รับชมข่าวประชาสัมพันธ์บนสื่อมัลติมีเดียแบบอินเทอร์แอคทีฟได้ที่: https://www.multivu.com/players/English/8868751-timex-we-dont-stop-togetherbrand-campaign/ สำหรับแคมเปญใหม่ WE DON’T STOP(TM) เป็นการสื่อสารถึงความหวังและพลังใจในการกลับมาตั้งหลักยามที่ผู้คนทั่วโลกยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แคมเปญนี้ประกอบด้วยวิดีโอเกี่ยวกับฮีโร่ที่เกิดขึ้นก่อนยุคโควิด ซึ่งฉายให้เห็นภาพอนาคตที่ผู้คนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อร่วมกันปฏิบัติภารกิจและเฉลิมฉลองความสำเร็จของกันและกัน โดยคุณสมบัติพื้นฐานเช่นที่ว่านี้เป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทำวิดีโอที่สอดแทรกไปด้วยการตีความสุดพิเศษผ่านบทเพลง “Don’t Stop Me Now” ของวง Queen ซึ่งถ่ายทอดเนื้อหาของแคมเปญนี้ออกมาได้อย่างลงตัว และสื่อถึงความพร้อมของแบรนด์ต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าอะไรก็ตาม Tobias Reiss-Schmidt […]

โรงงานแปลงก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเหลว (GTL) ของ NiQuan Energy ที่พอนทาปิแอร์ เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการโดยท่านนายกรัฐมนตรี ดร.คีธ โรวลีย์ ผู้ทรงเกียรติ โรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงเหลว 2,400 บาร์เรลต่อวัน โดยสามารถผลิตผลิตภัณฑ์พลังงานประสิทธิภาพสูงและปล่อยคาร์บอนต่ำอย่าง GTL Paraffinic Diesel และ GTL Naphtha จากก๊าซธรรมชาติ NiQUAN GTL คือโรงงานเชิงพาณิชย์แห่งแรกที่ผลิตเชื้อเพลิงดังกล่าวในซีกโลกตะวันตก ดร.โรวลีย์ กล่าวในพิธีเปิดว่า “โรงงานเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเหลวคือตัวอย่างสำคัญของการพัฒนาศักยภาพการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นให้ประสบความสำเร็จผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชน ธนาคาร และรัฐบาล ผมขอแสดงความยินดีกับ NiQuan และทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้เห็นโครงการนี้ลุล่วง ผมขอให้ NiQuan ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการดำเนินงานในอนาคต เพราะความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและพลเมืองทุกคน” เอนสลีย์ กิลล์ ซีอีโอ NiQuan Energy กล่าวว่า “GTL เป็นสะพานเชื่อมพลังงานสะอาดจากพลังงานสกปรกในอดีตสู่พลังงานที่สะอาดขึ้นในอนาคต มันคือสะพานที่ทุกคนต้องการสร้าง แต่ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ข้อจึงทำให้โครงการส่วนใหญ่ล้มเหลว โรงงานแห่งนี้ NiQuan Energy ได้สร้างสะพานแห่งแรกและจะมีมากขึ้น มากขึ้นเรื่อย […]

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกก่อให้เกิดความไม่แน่นอนมากมาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีฐานะมั่งคั่งทั่วโลกหันมามองหาถิ่นที่อยู่เพิ่มกันมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ผ่านโครงการลงทุนเพื่อขอสัญชาติและสิทธิ์พำนักอาศัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อจัดการกับข้อจำกัดและความเสี่ยงต่าง ๆ จากการมีถิ่นที่อยู่เดียว ในช่วงเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา Henley & Partners พบว่า จำนวนคำถามที่ได้รับเฉลี่ยในแต่ละวันนั้นพุ่งสูงขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 สัญชาติที่สนใจลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานนั้นปรากฏให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เปิดโลกทัศน์ใหม่อย่างยิ่ง โดยที่น่าแปลกใจมากที่สุดคือพลเมืองสหรัฐ ซึ่งมีการสอบถามเรื่องนี้เพิ่มขึ้นถึง 192% ในปี 2563 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น ขณะที่ชาวแคนาดามีการสอบถามเพิ่มขึ้น 34% พลเมืองสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 29% และพลเมืองฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 26% ดร. Juerg Steffen ซีอีโอของ Henley & Partners เปิดเผยว่า บุคคลที่มีความมั่งคั่งสูงจากประเทศพัฒนาแล้วอันดับต้น ๆ ของโลก ล้วนเลือกแผนการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานแบบผสมผสานที่มีตัวเลือกในการขอสัญชาติและสิทธิ์พำนักอาศัยเพิ่มเติม เพื่อสร้างคุณประโยชน์และบรรเทาความเสี่ยงในแง่ของสถานที่ที่ตนเองและครอบครัวสามารถใช้ชีวิต ทำงาน เรียน และลงทุน โดยกล่าวว่า “เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเราไม่ควรลงทุนลงแรงทั้งหมดไปกับสิ่งเดียว ตัวเลือกโปรแกรมส่วนใหญ่ให้สิทธิ์ครอบคลุมทั้งครอบครัว และหลายโปรแกรมก็ครอบคลุมถึงพ่อแม่ และแม้แต่ปู่ย่าตายายและพี่น้อง ยิ่งคุณมีสิทธิ์เข้าถึงเขตอำนาจมากเท่าใด […]

Cision บริษัทแม่ของ PR Newswire ประกาศเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ Brandwatch ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลผู้บริโภคดิจิทัลและการติดตามการสนทนาบนโซเชียลมีเดียในวงเงิน 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะรวมผู้นำทั้งสองในอุตสาหกรรมของตนเข้าไว้ด้วยกัน และจะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากมายจากความสามารถที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เพื่อมอบอนาคตการประชาสัมพันธ์ การตลาด และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าดิจิทัล พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมอบประโยชน์แก่องค์กรและบริษัท ที่รับฟังและเร่งนำข้อมูลดิจิทัลเชิงลึกของลูกค้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ บริษัทชั้นนำต่างปรับตัวอย่างรวดเร็วและใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ เพื่อสร้างการสื่อสารที่ตรงตามความต้องการ เป็นตัวเอง และเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าในวงกว้าง การเปลี่ยนกระบวนทัศน์สู่กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ การตลาด และการดูแลลูกค้าแบบเรียลไทม์ที่เน้นลูกค้าเป็นสำคัญนั้น จะยังคงขับเคลื่อนและสร้างความแตกต่างให้กับบริษัทเหล่านั้น Cision เป็นผู้นำด้านการกระจายข่าว การติดตามและวิเคราะห์สื่อ ด้วยฐานข้อมูลการติดต่อสื่อที่มีนักข่าวและสื่อมวลชนรวมกันราว 1 ล้านราย และลูกค้ากว่า 75,000 ราย Brandwatch ทำงานร่วมกับแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลกหลายพันแบรนด์ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีล่าสุดในด้านการเรียนรู้ของเครื่อง เพื่อวางโครงสร้างและตีความหมายจากเสียงของผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายพันล้านคน Cision และ Brandwatch เป็นการผสมผสานที่น่าสนใจ บริษัททั้งสองจะช่วยให้แบรนด์และองค์กรต่าง ๆ มีข้อมูลด้านผู้บริโภคและสื่อ เพื่อให้คิดค้นกลยุทธ์การมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์และการตลาด ไปจนถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าทีมจะกำลังติดต่อกับสื่อมวลชนและอินฟลูเอ็นเซอร์ เปิดตัวแคมเปญบนโซเชียลมีเดีย พัฒนาการส่งข้อความแบรนด์ […]

Pioneering HVDC Light® technology will enable Dogger Bank Wind Farm to support UK’s clean electricity demand, powering six million UK homes. Hitachi ABB Power Grids has announced that it has won another major order from Dogger Bank Wind Farm to connect the third transmission link from the world’s largest offshore wind farm over 130 km […]

ยูโอบี จับมือ สหพันธ์ธุรกิจสิงคโปร์ ช่วยบริษัทสิงคโปร์เข้าถึงเศรษฐกิจมูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ของอาเซียน พร้อมคว้าโอกาสที่เปิดกว้างในภูมิภาค ยูโอบีได้รับเลือกเป็นพันธมิตรด้านการเงินในโครงการ GlobalConnect@SBF Strategic Partnerships ธนาคารยูโอบี (UOB) ช่วยให้บริษัทจากสิงคโปร์เข้าถึงโอกาสทางธุรกิจข้ามพรมแดนในเศรษฐกิจมูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ของอาเซียน[1] โดยทางธนาคารได้ ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสหพันธ์ธุรกิจสิงคโปร์ (Singapore Business Federation: SBF) เพื่อเป็นพันธมิตรทางการเงินของโครงการ GlobalConnect@SBF Strategic Partnerships[2] ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการรวมจุดแข็งของธนาคารยูโอบีและ SBF ในการเชื่อมโยงธุรกิจของสิงคโปร์ ซึ่งรวมถึงสมาชิกของ SBF มากกว่า 27,000 ราย ให้ เข้าถึงโอกาสที่เปิดกว้างทั่วอาเซียน โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม เนื่องจากภูมิภาคนี้นำเสนอข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่กำลังมอง หาโอกาสในการเติบโต โดยคาดว่าอาเซียนจะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสี่ของโลกภายในปี 2593[3] นอกจากนี้ คาดว่าข้อตกลงการค้าต่าง ๆ เช่น ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วยเช่นกัน นายวี […]

ประกาศปฏิญญาในการประชุมสุดยอด #WeSeeEqual Gender Equality ซึ่งจัดโดยพีแอนด์จี (P&G) และองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) โดยมีผู้สนับสนุนความเสมอภาคระดับโลกอย่าง Indra Nooyi และ Bonang Matheba ร่วมแสดงพลัง พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Procter & Gamble) (NYSE:PG) ประกาศปฏิญญาใหม่เพื่อขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศทั่วเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในการประชุมสุดยอด #WeSeeEqual ระดับภูมิภาค ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่สามและจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งแรก โดยมีผู้สนับสนุนและบุคคลที่มีชื่อเสียงจากภาครัฐและภาคเอกชนมารวมตัวกันเพื่อรับมือกับความท้าทายในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและความเสมอภาคของสตรี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การประชุมสุดยอดจัดขึ้นในธีม ‘#Unsaid และ #Undone’ โดยนำบุคคลชั้นนำที่เป็นกระบอกเสียงเรื่องความเท่าเทียมทางเพศมาร่วมกันท้าทายวาทกรรมในปัจจุบัน และให้คำมั่นที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า ซึ่งในโอกาสนี้ Magesvaran Suranjan ประธานพีแอนด์จี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้ประกาศปฏิญญาดังต่อไปนี้ -พีแอนด์จีจะให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์และสุขอนามัยแก่เด็กหญิงวัยรุ่นกว่า 30 ล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ผ่านโครงการ Always and Whisper […]

และที่น่าสนใจ คือ งานเสวนาออนไลน์ (Online Webinar & Panel Discussion) ที่ได้รับเกียรติจากเหล่าวิทยากรผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจมากมาย ที่จะมาอัปเดตธุรกิจต่าง ๆ ของประเทศไทยในยุควิถีใหม่ในเวทีการจัดงานนี้ เช่น การจัดงานไมซ์และอีเวนต์ (MICE & Event) ดิจิทัลและเทคโนโลยี (Digital and Technology) สุขภาพ (Health and Wellness) โลจิสติกส์ (Logistics) ความยั่งยืน (Sustainability) เกษตรกรรม (Agriculture) การบริการ (Hospitality) อาทิ หัวข้อ “Thai Food Industry: New Norm MICE Business” โดย คุณสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หัวข้อ “How Thailand Can Thrive In The New […]

ในปีที่ธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการตอบสนองความต้องการของสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ผลสำรวจเจ้าของธุรกิจครอบครัว 2,801 รายทั่วโลกกลับพบว่า ธุรกิจครอบครัวมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวไม่ทัน แม้ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่ง (55%) มองว่า ธุรกิจของตนมีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่ความยั่งยืน แต่มีเพียง 37% เท่านั้นที่มีการกำหนดกลยุทธ์ไว้อย่างชัดเจน ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า ธุรกิจในยุโรปและอเมริกากำลังตามหลังธุรกิจในเอเชียที่มีความมุ่งมั่นที่จะกำหนดให้ความยั่งยืนเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดย 79% ของผู้ตอบแบบสำรวจในจีน และ 78% ในญี่ปุ่นระบุว่า ‘ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ’ เทียบกับ 23% ของสหรัฐอเมริกา และ 39% ในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ดี ธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจที่มีรุ่นลูกรุ่นหลานเป็นเจ้าของนั้นสวนกระแส โดยธุรกิจเหล่านี้ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ผลสำรวจชี้ว่าธุรกิจครอบครัวไม่เต็มใจที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งๆ ที่ธุรกิจเหล่านี้มีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับสูง โดยธุรกิจครอบครัวกว่า 80% มีส่วนร่วมในกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมเชิงรุก และ 71% พยายามรักษาพนักงานไว้ให้มากที่สุดในช่วงการแพร่ระบาด และไม่ว่าจะมีมุมมองลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจ หรือแม้เกิดโรคระบาด แต่กลับมีผู้ตอบแบบสำรวจไม่ถึงครั้งหนึ่ง (46%) ที่คาดว่ายอดขายจะลดลง โดยผู้ตอบแบบสำรวจมีมุมมองที่เป็นบวกว่าธุรกิจของตนจะสามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ในปี 2564 และ 2565 อย่างไรก็ตาม ประเด็นคือ ธุรกิจครอบครัวมีแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการตอบสนองต่อสังคมที่ล้าสมัย โดย 76% ในสหรัฐอเมริกา และ […]

ในขณะที่ความไม่สงบทางการเมืองและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจกำลังครอบงำพื้นที่บางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บุคคลรายได้สูงหลายรายได้หันมามองหาตัวเลือกในการคุ้มครองอนาคตของตนเองและครอบครัว การขอสัญชาติที่สองจึงกำลังเป็นที่นิยมในภูมิภาคนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งกำลังมองหาหลักประกันเพื่อรับมือในกรณีที่ประเทศบ้านเกิดของตนเองเกิดวิกฤติ ตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือการขอสัญชาติของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสผ่านโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ (CBI) ซึ่งเป็นโครงการขอสัญชาติทางเศรษฐกิจที่ดำเนินมายาวนานที่สุดในตลาด เซนต์คิตส์และเนวิสได้ริเริ่มโปรแกรม CBI ในปีพ.ศ. 2527 โดยได้เข้ามาดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นเวลาเกือบ 4 ทศวรรษแล้ว จนได้รับการยอมรับว่าเป็น “มาตรฐานระดับแพลทินัม” ผู้ที่ต้องการขอสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิสจำเป็นต้องลงทุนในกองทุน Sustainable Growth Fund (SGF) ในวงเงินตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ กองทุนดังกล่าวจัดตั้งขึ้นในปี 2561 โดยทิโมธี แฮร์ริส นายกรัฐมนตรี และได้รับการยอมรับว่าเป็นช่องทางการขอสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิสที่รวดเร็วและง่ายดายที่สุด เมื่อผู้ขอสัญชาติผ่านการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะหลายขั้นตอน ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอกแล้ว ผู้นั้นก็จะได้สัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิสตลอดชีวิต พร้อมสิทธิในการใช้ชีวิต ทำงาน และเรียนในประเทศนี้ ผู้ที่ถือสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิส ยังเดินทางไปได้ถึง 156 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ซึ่งมีศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำรวมอยู่ด้วย ทั้งยังมีทางเลือกในการลงทุน และสามารถส่งต่อสัญชาติให้ลูกหลานได้ด้วยเช่นกัน นักลงทุนที่เลือกอาศัยอยู่ในเซนต์คิตส์และเนวิสอุ่นใจได้ว่า พวกเขากำลังใช้ชีวิตอยู่ในชาติประชาธิปไตยที่มุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิต เซนต์คิตส์และเนวิสมีอัตราอาชญากรรมต่ำและมีเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้พลเมืองรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เซนต์คิตส์และเนวิสยังครองอันดับหนึ่งของภูมิภาคในดัชนีชี้วัดหลักนิติธรรม (Rule of Law) ในหมวดความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง และกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง มิชา เอ็มเม็ตต์ […]

แอปพลิเคชัน FP Markets Mobile App ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากมายเพียงแค่ปลายนิ้วทุกที่ทุกเวลา ในโลกของการเทรดออนไลน์ที่มีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลานั้น FP Markets หนึ่งในบริษัทฟินเทคชั้นนำจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำ ยังคงเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทได้ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชัน FP Markets Mobile App ที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถพกพาบัญชีเทรดติดตัวไปได้ทุกที่ แอปพลิเคชัน FP Markets Mobile Trading App สามารถใช้ได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS ทุกรุ่น โดยสามารถซื้อขายฟอเร็กซ์ และ CFD ได้ทั้งหุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง Android (Google Play) และ iOS (App Store) แอปพลิเคชันใหม่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงการจับคู่สกุลเงินกว่า 60 คู่ อีกทั้งยังสามารถเทรดหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกกว่า 50 ตัว เช่น […]