หลังขยายธุรกิจมายังภูมิภาคเอเชียเมื่อปลายปี 2563 จากการเข้าซื้อกิจการของ Royal Sporting House ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาแบบมัลติแบรนด์ GMG ซึ่งเป็นบริษัทด้านการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีในระดับโลกซึ่งจัดจำหน่าย กระจาย และผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับสากลและแบรนด์ในประเทศ โดยครอบคลุมทั้งหมวดกีฬา อาหาร และสุขภาพ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพนักงานเพิ่มอีกสองเท่าให้ได้ภายในปี 2568 เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ใหม่ขององค์กร ซึ่งครอบคลุมการปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจในปัจจุบันและนำเสนออัตลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ รวมถึงการตอกย้ำถึงวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟสู่การมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นผ่านทางผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ
คุณ Mohammad A. Baker รองประธานและซีอีโอของ GMG ยืนยันว่า การลงทุนในอนาคตนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยการส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างแอคทีฟ การรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ และการมีสุขภาพที่ดี โดยบริษัทจะสะท้อนการลงทุนในด้านดังกล่าวสู่กลุ่มธุรกิจ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย GMG Sports, GMG Food, GMG Health และ GMG Consumer Goods
รายงานล่าสุดจาก Bain & Company ระบุว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกของโลก โดยสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมนี้คิดเป็น 3 ใน 4 ของโลก ขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้ทั่วโลกได้เข้ามาแสวงหาการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในอนาคตด้วย คุณ Baker กล่าวว่า “เอเชียยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก” และเพิ่มเติมว่า “การเข้าซื้อกิจการของ RSH เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เราพร้อมใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านขนาด และสร้างคุณค่าใหม่ให้กับลูกค้าในท้องถิ่นผ่านทางเครือข่ายร้านค้ากว่า 140 สาขาและพนักงานกว่า 900 คน”
คุณ Baker กล่าวอีกว่า “เราตระหนักดีว่า ชุมชนและรัฐบาลทั่วโลกพยายามที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งบ่อยครั้งมักเชื่อมโยงกับความอยู่ดีมีสุขของตัวบุคคล” และอธิบายเพิ่มว่า “ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจนั้นต่างก็ประสบภาวะชะงักงันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีดิจิทัลที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงแรงผลักดันอื่น ๆ เราจึงกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนสังคมสำหรับ GMG ขึ้นมา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนฝ่าฟันไปสู่การสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้น กล้าท้าทายตัวเองและคนอื่น ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การใช้งานที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ ไม่ใช่แค่การสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจของเราเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนที่เราอยู่ด้วย”
บริษัทมีแบรนด์สินค้าที่หลากหลายกลุ่ม และได้นำแบรนด์กว่า 120 แบรนด์ออกสู่ตลาดในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ในฐานะผู้เล่นตัวเก็งของธุรกิจค้าปลีกสินค้ากีฬา GMG ยังได้นำแบรนด์ต่างประเทศ เช่น Nike, Vans, The North Face, Columbia และอีกหลายแบรนด์มาวางจำหน่ายด้วย ส่วนในธุรกิจอาหาร บริษัทเป็นทั้งผู้ผลิตอาหารภายใต้กลุ่มธุรกิจ GMG Food และผู้จัดจำหน่ายแบรนด์อาหารยอดนิยมอย่าง McCain, Mama Sita’s และ Shan ในกลุ่มธุรกิจ GMG Consumer Goods นอกจากนี้ ยังได้วางคอนเซ็ปต์แบรนด์สินค้าในประเทศจนประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย อาทิ Sun & Sand Sports ซึ่งก้าวขึ้นเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าประเภทกีฬารายใหญ่ที่สุดในตะวันออกกกลาง รวมถึงร้านขายยา Supercare, แบรนด์อาหาร Farm Fresh และอีกหลายแบรนด์
เมื่อไม่นานนี้ GMG ได้จ้างพนักงานประมาณ 7,000 คน ใน 12 ประเทศ ครอบคลุมทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และเอเชีย โดยคุณ Baker ได้เน้นย้ำในระหว่างที่พูดถึงเป้าหมายระยะยาวของบริษัทว่า “ผมเห็นอนาคตที่ GMG มีอยู่ในทุกตลาดสำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกิจการแบรนด์ใหม่ ๆ ในระดับสากล การพัฒนาคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ในประเทศ หรือการเจาะสู่ตลาดใหม่”
การประกาศของ GMG นั้นเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในแนวคิดของการส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดีในวงกว้างนั้น ขยายตัวขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดย McKinsey & Company ได้คาดการณ์ว่า ตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลกนั้นจะมีมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และจะขยายตัวราว 5-10% ต่อปี เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการมีสุขภาวะที่ดีในหลายมิติ ทั้งการมีสุขภาพที่ดี การออกกำลังกาย โภชนาการ รูปร่าง ฯลฯ
คุณ Baker สรุปว่า “เรายังทำเหมือนเป็นสตาร์ทอัพขนาดใหญ่ในหลาย ๆ ด้าน โดยเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เราคือองค์กรที่ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอและมองหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา”
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1662089/GMG.jpg