กระทรวงดิจิทัลฯ (MDES) กระทรวงอุดมศึกษาฯ (MHESI) จับมือสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ประกาศผลและมอบรางวัลการประกวด U Power Digital Idea Challenge Season 7 สร้างนักการตลาดดิจิทัลมืออาชีพไอเดียสุดล้ำด้วยเทคโนโลยี AI
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ณ ห้อง Jubilee Ballroom ชั้น 11 โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ (กรุงเทพมหานคร) – คุณสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการประกวด พร้อมทำจริง จากแผนการตลาดดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายใต้ชื่อโครงการ “U Power Digital Idea Challenge” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ Digital Technology Demand Generation จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ด้วยความร่วมมือระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) สมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั่วประเทศ และการสนับสนุนจากแบรนด์ชั้นนำของประเทศ
คุณสุภาวดี ตันติยานนท์ กล่าวว่า “โครงการประกวด U Power Digital Idea Challenge Season 7 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการจุดประกายความคิด นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้และฝึกฝนกับนักศึกษา ให้สามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจ และมีแนวทางในการทำธุรกิจที่มีคุณภาพสูง สามารถผนึกเอา Digital Technology มาพัฒนาความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด และได้ทดลองปฏิบัติจริงตามแผน เพื่อพิสูจน์ว่าผลงานนั้นสามารถใช้งานได้จริง และยังเป็นการเตรียมบุคลากรรุ่นใหม่ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมต่าง ๆ รองรับการปฏิรูปประเทศไทยสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ (Digital Thailand) หมายถึง ประเทศไทยที่สามารถสร้างสรรค์ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์ และทรัพยากรอื่นใด เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สำหรับ DUGA แล้วเรามีส่วนร่วมอย่างสูงโดยเฉพาะในยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านที่ 2 เรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และด้านที่ 5 การพัฒนากำลังคนให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การประกวดในปีนี้ได้ปรับเพิ่มให้นิสิตนักศึกษามุ่งนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล้ำยุค อันได้แก่ Generative AI และ Chat GPT มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานสำหรับการแข่งขัน ภายใต้โจทย์ที่กำหนดโดย 6 แบรนด์ชั้นแนวหน้าของประเทศ ปีนี้มีนิสิตนักศึกษาสนใจร่วมเข้าแข่งขันสูงถึง 982 ทีม จาก 52 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยการประกวดครั้งนี้มีเงินรางวัลรวม 400,000 บาท และใบประกาศนียบัตรพร้อมถ้วยรางวัลจากระทรวงดิจิทัลฯ และกระทรวงอุดมศึกษาฯ ให้เป็นรางวัลแก่ทีมที่ชนะ”
ในปีนี้ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากองค์กรเจ้าของแบรนด์ชั้นนำของประเทศ ได้แก่
บริษัท อุรา กรุงเทพ คลินิก จำกัด (Aura Bangkok Clinic)
บริษัท เอส.ซี.เสรีชัยบิวตี้ จำกัด (Lolane)
บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด (ยาดม ตราถ้วยทอง)
บริษัท ไบโอ-วูเมนส์ จำกัด (Plante)
บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด (Tipco)
บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (DAIRYGOLD)
สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวนทั้งหมด 15 ทีม ซึ่งผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับหัวข้อการประกวดของโจทย์ที่ได้รับ โดยมีทีมที่ได้รับรางวัลดังนี้
รางวัลชนะเลิศ (ทุนการศึกษา 50,000 บาท)
ทีม The Powerpuff Pigs จาก มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แบรนด์ ยาดม ตราถ้วยทอง
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (ทุนการศึกษา 40,000 บาท)
ทีม ชิปปี้ชัปป้า จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แบรนด์ DAIRYGOLD
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 (ทุนการศึกษา 30,000 บาท)
ทีม BoostBoostBoost จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แบรนด์ Aura Bangkok Clinic
รางวัลชมเชย 3 รางวัล (ทุนการศึกษา 10,000 บาท)
ทีม ณภัทรนำทัพ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แบรนด์ Tipco
ทีม สุขอุรา จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แบรนด์ Aura Bangkok Clinic
ทีม Wake Up มาแข่ง U Power จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แบรนด์ Aura Bangkok Clinic
รางวัลพิเศษจากแบรนด์ Aura Bangkok Clinic (Gift Voucher 10,000 บาท)
ทีม Avengers : Endgame จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทีม BoostBoostBoost จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทีม Lamb จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทีม Wake Up มาแข่ง U Power จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทีม สุขอุรา จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รางวัลพิเศษจากแบรนด์ Aura Bangkok Clinic (Gift Voucher 30,000 บาท)
ทีม The Powerpuff Pigs จาก มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
รางวัลพิเศษจากแบรนด์ Lolane (ทุนการศึกษา 10,000 บาท)
ทีม STAMP จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร
ทีม โชคดี จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
รางวัลพิเศษจากแบรนด์ ยาดม ตราถ้วยทอง (ทุนการศึกษา 10,000 บาท)
ทีม The Powerpuff Pigs จาก มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
รางวัลพิเศษจากแบรนด์ ยาดม ตราถ้วยทอง (Gift Voucher 10,000 บาท)
ทีม MondayWhat จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ทีม Red Wolf จาก มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ทีม The Powerpuff Pigs จาก มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
รางวัลพิเศษจากแบรนด์ Tipco (ทุนการศึกษา 10,000 บาท)
ทีม เรื่องราวดีย์ๆ เวอร์ จาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทีม ณภัทรนำทัพ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คุณวราวิชญ์ กรรณิกา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดออนไลน์ บริษัทไบโอ-วูเมนส์ จำกัด (Plante) กล่าวว่า “Plante เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม FMCG (Fast-Moving Consumer Goods) ที่ดูแลผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ โลชั่นทาผิว และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่างไปจากไบโอวูแมนที่คนมักจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ทำสีผม เราเข้าร่วมโครงการนี้โดยมีวัตถุประสงค์ต้องการสนับสนุนน้องๆ นิสิตนักศึกษาให้ใช้ AI มาช่วยสร้างสรรค์ทำแผนการตลาดยุคใหม่มากยิ่งขึ้น และเราอยากได้ความรู้และแนวคิดใหม่ๆ มาเติมเต็มประสบการณ์ของเรา เพื่อขยายตลาดสู่คนรุ่นใหม่ แบรนด์มองว่าแนวคิดของน้องๆ จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยเดียวกันได้ดีกว่า นอกจากนี้โครงการนี้ ยังเป็นการสนับสนุนและเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงในวงการตลาดอีกด้วย ไอเดียที่ได้รับรางวัลนั้นใช้สื่อออนไลน์และช่องทางใหม่ๆ ที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายของ Plante ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ในอนาคตเราอาจจะให้น้องๆ เป็นกึ่ง agency หรือ partners กับเรา ในการผลิตสื่อ หรือเป็น influencer รุ่นใหม่ๆ โดยเราจัดหา budget ให้น้องไปดำเนินการ”
คุณพรกมล เพชรดาษดา Chief Marketing Office บริษัท อุรา กรุงเทพ คลินิก จำกัด (Aura Bangkok Clinic) กล่าวว่า “Aura Bangkok Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามชั้นนำในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โครงการนี้ทำให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้ ได้ทำงานกับเจ้าของแบรนด์จริงๆ ทำแผนการตลาดที่น่าจะใช้ได้จริงในอนาคต ทำให้ได้เรียนรู้มากกว่าในห้องเรียน ทีมที่ชนะมีจุดเด่นด้วยการทำการวิเคราะห์ตลาดได้ดี ทำ execution plan ได้ดีมาก โดยใช้ AI และสื่อออนไลน์ เข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจริงๆ ของเรา ว่าอยู่บนโลกโซเชียลออนไลน์ มากกว่าออฟไลน์ ในแผนการตลาดนั้นวางทุกอย่างบนสื่อออนไลน์ได้ดี ตอบโจทย์ สิ่งที่น้องๆ ทำเป็นอะไรที่วัยรุ่นชอบ อย่างเช่น TikTok Quiz, AI Filter, จัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัย เรามีแผนที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกและแนวคิดสร้างสรรค์จากการแข่งขันนี้เพื่อปรับปรุงการสร้างแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่จะฝากน้องๆ เพิ่มเติมคือแผนการตลาดที่ดี ต้องทำได้และคุ้มค่าการลงทุน (ROI) ด้วย”
คุณสุพิชชา ชูพินิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด (Tipco) กล่าวว่า “Tipco เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ต่างๆ รวมทั้งน้ำแร่ ที่เป็นที่รู้จักกันดี เราเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ U Power ครั้งนี้เป็นปีที่สอง เพราะโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการสนับสนุนการศึกษา ทำให้นักศึกษาได้มีกิจกรรมดีๆ ได้ทำแผนการตลาด สร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Tipco ที่ใช้ในการแข่งขัน คือน้ำผลไม้ “Tipco Less Sweet” ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแคลอรี่ต่ำ ในขณะที่ยังคงรสชาติอร่อยและคุณประโยชน์ของผลไม้ไว้ครบถ้วน Tipco ประทับใจในความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น และความใส่ใจในรายละเอียดของทีมที่ได้รับรางวัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการทำแผนการตลาด ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของ Tipco ในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล Tipco มีแผนนำไอเดียสร้างสรรค์ของทีมที่ชนะไปต่อยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์เรื่องราว (storytelling) และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยลง นอกจากนี้ Tipco ยังมองเห็นโอกาสในการใช้ AI ในการสร้างสื่ออื่นๆ เช่น สติกเกอร์ไลน์ และสื่อดิจิทัลต่างๆ”
คุณพัชรี ลีลารัศมี Chief Strategy Officer บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด (ยาดม ตราถ้วยทอง) กล่าวว่า “ถ้วยทองโอสถมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ ดำเนินงาน และการตลาด โดยเน้นการเชื่อมโยงกับภาคการศึกษา เพื่อนำองค์ความรู้เชิงวิชาการมาต่อยอดในภาคธุรกิจ ยาดมตราถ้วยทอง เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของถ้วยทองโอสถ ที่ผสมผสานความเก่าแก่ดั้งเดิมของแบรนด์ตราถ้วยทองที่มีรากฐานมาจากยาหม่อง กับความใหม่ของยาดมตราถ้วยทอง เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีความเร่งด่วนในการใช้ชีวิตประจำวันและต้องการความสะดวกสบาย ทีมที่เข้ารอบมีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้เฟรมเวิร์กในการทำงาน มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน และมีความเชื่อมโยงระหว่างแผนกับการดำเนินงานทางการตลาด รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ โดยต้องตอบโจทย์ตาม consumer profile ที่เราต้องการ โดยเฉพาะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกันกับน้องๆ แต่ละกลุ่มนำ AI เข้ามาใช้ในระดับที่มากน้อยต่างกันที่ชัดๆ คือมาใช้ในการนำเสนอไอเดีย แต่เบื้องต้นความคิดสร้างสรรค์มักจะมาจากคนทำผลงานเองก่อน น้องต้องเข้าใจโจทย์ก่อนแล้ว แล้วถึงจะสามารถส่งคำถามไปให้ AI ช่วยสร้างไอเดียให้เป็นรูปธรรม อย่างเช่นสร้างภาพตัว mascot ให้มีภาพลักษณ์ของแบรนด์”
คุณปริญญา ทัศคร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.ซี.เสรีชัยบิวตี้ จำกัด (Lolane) กล่าวว่า “เราเข้าร่วมโครงการครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) และมองหา Big Ideas ใหม่ๆ ของ Gen Z ที่น่าสนใจเพื่อนำไปต่อยอดในด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการประกวดครั้งนี้คือ Lolane Nature Code Botanic Hair Color Serum ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมสูตรเนื้อเซรั่ม ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเปลี่ยนสีผม โดยเน้นในเรื่องการใช้งานง่าย (Easy to use) ที่สำคัญสามารถยกระดับสีผมให้สว่างขึ้นทันทีใน 2 ระดับตั้งแต่การใช้ครั้งแรก เราเป็นแบรนด์สีผมแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจากสถาบันแพทย์ผิวหนังว่าอ่อนโยนและปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ของเราพัฒนาออกมาภายใต้แนวคิด More Natural, less Chemical ทีมที่ได้รับรางวัลมีความโดดเด่นใน 3 ด้าน คือ การออกแบบ Big Idea แคมเปญให้สอดคล้องกับโจทย์ โจทย์คือเข้าไปอยู่ในใจของ Gen Z ข้อสองคือการมีความคิดสร้างสรรค์และแปลกใหม่ และสุดท้ายต้องมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ได้จริง สามารถนำข้อมูลและไอเดียที่ได้จากการประกวดนี้ไปต่อยอดในการสร้างแผนการตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่ม Gen Z และการนำเสนอไอเดียที่ตรงใจผู้บริโภคกลุ่มนี้”
คุณสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการประกวด “U Power Digital Idea Challenge Season 7” ได้รับการตอบรับจากนิสิตนักศึกษาค่อนข้างสูง และขอแสดงความยินดีกับนิสิตนักศึกษาที่ได้รับรางวัล พร้อมทั้งขอขอบคุณสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนให้นิสิต นักศึกษาส่งผลงานร่วมประกวด ขอบคุณแบรนด์ชั้นนำของประเทศที่ได้ร่วมตั้งโจทย์และสนับสนุนการประกวดครั้งนี้ และขอบคุณนิสิต นักศึกษาทุกท่านที่สร้างสรรค์ส่งผลงานอันมีคุณค่าเข้าประกวด ซึ่งเวทีนี้เปิดกว้างอย่างไร้ขีดจำกัดให้แสดงความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจในการเขียนแผนการตลาดดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี AI ต่อยอดเส้นทางการเป็นนักการตลาดมืออาชีพดิจิทัล และบุคลากรที่มีคุณภาพสูงสู่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อรองรับ Digital Economy ของรัฐบาล อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างก้าวหน้าและยั่งยืนในอนาคตต่อไป