นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยกย่องบทบาทของการทูตประเทศใหญ่ (major-country diplomacy) ในการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก ในระหว่างที่เขาสรุปผลงานทางการทูตของจีนตลอดปีนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“เราใช้การฑูตประเทศใหญ่ที่มีเอกลักษณ์แบบจีนอย่างครอบคลุมรอบด้าน ทั้งยังมีส่วนสนับสนุนการรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน” นายหวังกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยสถานการณ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน (Symposium on the International Situation and China’s Foreign Relations)
นายหวังชื่นชมการทูตระดับประมุขแห่งรัฐซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางงานด้านการทูตโดยรวมของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง การประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกับผู้นำจากกว่า 40 ประเทศ และการที่ผู้นำจีนเดินทางเยือนต่างประเทศสามครั้งก่อนและหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ในเดือนตุลาคม
นายหวังกล่าวชื่นชมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง ซึ่งมีประมุขแห่งรัฐรวมถึงตัวแทนจากรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ 31 คนร่วมเป็นสักขีพยาน ขณะที่ประชาคมโลกได้สัมผัสกับจีนที่ “มั่นใจ มุ่งมั่น เปิดกว้าง และครอบคลุม” มากขึ้น
“การพบกันที่กรุงปักกิ่งระหว่างมหกรรมกีฬาน้ำแข็งและหิมะถือเป็นหลักชัยใหม่ภายใต้ความพยายามของคนทั่วโลกที่จะโอบรับความหวังใหม่และมุ่งสู่อนาคตร่วมกัน” นายหวังกล่าว
สำหรับการประชุมทวิภาคีหลายสิบครั้งระหว่างผู้นำจีนกับผู้นำจากต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ปากีสถาน และเยอรมนี หลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 นั้น นายหวังกล่าวว่าการประชุมดังกล่าวไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดของการทูตระดับประมุขแห่งรัฐในปีนี้เท่านั้น แต่ยังเป็น “การเริ่มต้นที่ดีสำหรับการทำงานของคณะผู้นำชุดใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในส่วนของกิจการต่างประเทศ”
นายหวังยังได้กล่าวถึงการสนับสนุนที่นานาชาติมีให้กับข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative หรือ GSI) และข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative หรือ GDI)
นายสี จิ้นผิง นำเสนอข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลกและข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก ในการประชุมโป๋อ๋าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia) เมื่อเดือนเมษายน 2565 และในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly) ครั้งที่ 76 เมื่อเดือนกันยายน 2564 ตามลำดับ
นายหวังเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ กว่า 70 ประเทศได้แสดงการสนับสนุนข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก ขณะเดียวกัน กว่า 100 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงองค์การสหประชาชาติ ได้ให้การสนับสนุนข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก และเกือบ 70 ประเทศได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรของข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Group of Friends of the GDI)
นอกจากนี้ นายหวังยังเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์กับประเทศและภูมิภาคสำคัญ ๆ
ตั้งแต่การสนทนาผ่านโทรศัพท์สองครั้งไปจนถึงการประชุมแบบตัวต่อตัวที่บาหลีระหว่างนายสี จิ้นผิง กับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา นายหวังกล่าวว่าการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาในเชิงลึกระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองเปี่ยมด้วยกลยุทธ์และความสร้างสรรค์
“การชิงดีชิงเด่นรังแต่จะสร้างความเสียหายและไม่มีผลดีอะไร ขณะที่การแสวงหาความร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่ทางเลือก” นายหวังกล่าว พร้อมเสริมว่าจีนเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาทำงานร่วมกันในการวางเสาหลักและรากฐานที่มั่นคง เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกาให้เติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรง
สำหรับการพบกันระหว่างนายสี จิ้นผิง กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ที่กรุงปักกิ่งในเดือนกุมภาพันธ์และที่เมืองซามาร์กันต์ในเดือนกันยายนนั้น นายหวังกล่าวว่าผู้นำทั้งสองได้ให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย เพื่อก้าวไปข้างหน้าภายใต้สถานการณ์ใหม่
เมื่อกล่าวถึงวิกฤตยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ นายหวังกล่าวว่าจีนยึดมั่นทิศทางที่ถูกต้องในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ แสวงหาวิธีการแก้ปัญหาที่ต้นตอ และยืนหยัดในฐานะผู้สนับสนุนสันติภาพแทนที่จะจุดไฟแห่งความขัดแย้ง