กรุงเทพฯ ประเทศไทย 22 เมษายน 2568 — เสียวหมี่ ประเทศไทย วางจำหน่าย Redmi Pad Pro 5G แท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ที่จบครบทุกความบันเทิงพร้อมการเชื่อมต่อ 5G โดยวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 8GB+128GB ราคา 13,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 22 – 30 เมษายน 2568 รับฟรี! Redmi Pad Pro Keyboard มูลค่า 1,999 บาท1
Redmi Pad Pro 5G ให้คุณใช้งานอย่างจุใจไปกับหน้าจอขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว และเพิ่มประสบการณ์การรับชมด้วยอัตรารีเฟรช 120Hz2 ด้วยความละเอียด 2.5K (2560 x 1600) ที่ 249ppi และความสว่างสูงสุด 600nits เพื่อการรับชมภาพที่สดใสด้วยรายละเอียดที่ครบครัน ทั้งนี้หน้าจอแสดงผลยังได้รับการออกแบบมาให้มีอัตราส่วนภาพที่ 16:10 เพื่อเพิ่มประสบการณ์การรับชมไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือการเล่นเกมก็ตาม ทั้งยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ให้คุณรับชมด้วยความสบายตาโดยใช้ระบบลดแสง DC นอกจากนี้ยังยกระดับการเล่นเกมและความบันเทิงขึ้นไปอีกขั้นด้วยลำโพงสเตอริโอสี่ตัว รองรับ Dolby Atmos® และเสียงความละเอียดสูงอีกด้วย
Redmi Pad Pro 5G รองรับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS คุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการแชร์คอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วและยังใช้งานร่วมกันข้ามอุปกรณ์ได้อีกด้วย3 โดยผู้ใช้สามารถลากและวางคอนเทนต์ได้ทันที ทั้งยังสามารถแชร์รูปภาพและไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่ทำงานร่วมกันข้ามอุปกรณ์พร้อมกันได้และสร้างการเชื่อมต่อระดับเรือธง4 Redmi Pad Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon® 7s Gen 2 Pro ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล เสริมด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10000mAh (typ) ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดื่มด่ำไปกับความบันเทิงที่ยาวนานขึ้น ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อ 5G ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา5
แท็บเล็ต Redmi Pad Pro 5G รุ่นความจุ 8GB + 128GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท ที่ Xiaomi Store ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 22 – 30 เมษายน 2568 รับฟรี! Redmi Pad Pro Keyboard มูลค่า 1,999 บาท1
หมายเหตุ
1 ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
2 ขนาดหน้าจอของ Redmi Pad Pro 5G เมื่อวัดตามแนวทแยงมุมจะอยู่ที่ประมาณ 12.1 นิ้ว พื้นที่มองเห็นจะเล็กลงเนื่องจากมุมโค้ง การวัดระยะผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นอาจแตกต่างกัน
3 การใช้งานร่วมกันข้ามอุปกรณ์รองรับการเชื่อมต่อระหว่าง Redmi Pad Pro, Redmi Pad Pro 5G, Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 Pro 5G, Xiaomi Pad 6S Pro 12.4, Xiaomi 14, Xiaomi 14 Ultra และอื่นๆ อีกมากมาย แผนการเปิดตัวสำหรับรุ่นอื่นๆ จะประกาศให้ทราบในภายหลัง โปรดติดตามประกาศเพิ่มเติมจากเสียวหมี่
4 อุปกรณ์จะต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชีเสียวหมี่เดียวกันและเชื่อมต่อกับเครือข่ายท้องถิ่นเดียวกัน โดยจะต้องเปิดใช้งาน WLAN และ Bluetooth® เปิดใช้งาน Xiaomi Smart Hub ในการตั้งค่า – การแจ้งเตือนและแถบสถานะ
5 การเชื่อมต่อ 5G อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความพร้อมใช้งานในแต่ละภูมิภาคและการรองรับของผู้ให้บริการในพื้นที่
###
เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก
ด้วยวิสัยทัศน์ “การเป็นมิตรของผู้ใช้งานและบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้ใช้งานทุกคน” เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนานวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่ลดละการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้
เสียวหมี่คือหนึ่งในบริษัทสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก ในเดือนธันวาคม 2567 ยอดผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 702.3 ล้านรายรวมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต นอกจากนี้เสียวหมี่ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT (AI+IoT) ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อกับแพลทฟอร์มกว่า 904.6 ล้านเครื่อง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยยังไม่รวมสมาร์ทโฟน แล็ปท็อปและแท็บเล็ต ในเดือนตุลาคม 2566 เสียวหมี่ได้อัปเกรดกลยุทธ์เป็นระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human × Car × Home” ที่ผสานเอาอุปกรณ์ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม และรถยนต์เข้าไว้ด้วยกันไว้อย่างลงตัว เสียวหมี่ให้ความสำคัญกับมนุษย์อยู่เสมอ และมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมและดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2567 เสียวหมี่ยังติดอันดับใน Fortune Global 500 นับเป็นการติดอันดับเป็นปีที่หกติดต่อกัน
เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index, Hang Seng TECH Index และ Hang Seng China 50 Index.
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://www.mi.com/global/discover/newsroom