ปิดการระดมทุนสำหรับโรงก๊าซแอลเอ็นจีพลาคไมน์

การจัดหาเงินทุนป้อนโครงการในวงเงิน 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือเป็นโครงการส่งออกแอลเอ็นจีของสหรัฐโครงการแรกที่บรรลุความสำเร็จในการระดมทุน นับตั้งแต่โครงการโรงก๊าซแคลคาชู พาส ของเวนเจอร์ โกลบอล
เป็นการบรรลุความสำเร็จในการระดมทุนโครงการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2565
วันนี้ เวนเจอร์ โกลบอล แอลเอ็นจี (Venture Global LNG) ได้ประกาศตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) และปิดการระดมทุนโครงการ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับระยะเริ่มต้น (เพิ่มขึ้นเป็น 13.33 ล้านตันต่อปี) ของโรงก๊าซแอลเอ็นจีพลาคไมน์ (Plaquemines) และท่อส่งเกเตอร์ เอ็กซ์เพรส (Gator Express) ถือเป็นการบรรลุความสำเร็จในการระดมทุนโครงการที่ใหญ่ที่สุดในโลกนับจนถึงปี 2565 ซึ่งเงินที่ได้จากการจัดหาเงินกู้และตราสารทุนจะนำไปลงทุนด้านการก่อสร้างและการว่าจ้างในระยะแรก และนับเป็นโครงการแอลเอ็นจีโครงการแรกในสหรัฐที่บรรลุความสำเร็จในการระดมทุนนับตั้งแต่โครงการโรงก๊าซแคลคาชู พาส (Calcasieu Pass) ของเวนเจอร์ โกลบอล เมื่อเดือนสิงหาคม 2562

“ทีมงานเวนเจอร์ โกลบอล มีความภูมิใจที่จะประกาศตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในโครงการที่สองของเราอย่างโรงก๊าซแอลเอ็นจีพลาคไมน์ หลังจากเพิ่งเริ่มการส่งออกที่โรงก๊าซแคลคาชู พาส ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ผมอยากจะขอบคุณทีมงานของเรา สำหรับความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยในการสนับสนุนความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้” ไมค์ ซาเบล (Mike Sabel) ซีอีโอของเวนเจอร์ โกลบอล แอลเอ็นจี กล่าว “พลาคไมน์จะสานต่อความสำเร็จของแคลคาชู พาส ที่ทำลายสถิติโลกในด้านความเร็วและการดำเนินการ โครงการได้รับการสนับสนุนทางการเงินและการค้าด้วยดี ทำให้เราสามารถอนุมัติโครงการนี้อย่างเป็นทางการในช่วงเวลาสำคัญสำหรับตลาดพลังงาน เดี๋ยวนี้ความเร็วสำคัญมากกว่าเมื่อก่อน และเวนเจอร์ โกลบอล ก็อยู่ในตำแหน่งที่แตกต่าง ในการนำแอลเอ็นจีของสหรัฐออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว เพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานและความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ผมอยากจะขอบคุณลูกค้า ผู้ให้กู้ ที่ปรึกษา หุ้นส่วนการก่อสร้าง และพันธมิตรในท้องถิ่นในรัฐลุยเซียนา สำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนของพวกเขา”

โรงก๊าซแอลเอ็นจีพลาคไมน์ได้รับใบอนุญาตที่จำเป็นทั้งหมด ทั้งใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานของภาครัฐ (FERC) และใบอนุญาตส่งออกไปนอกเขตการค้าเสรี (non-FTA export) จากกระทรวงพลังงานของสหรัฐ นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย (SPA) ระยะเวลา 20 ปี คิดเป็นสัดส่วน 80% ของโครงการขนาด 20.0 ล้านตันต่อปี โดยลูกค้าของโรงก๊าซแอลเอ็นจีพลาคไมน์เฟสที่หนึ่ง ได้แก่ พีจีเอ็นไอจี (PGNiG), ซิโนเปค (Sinopec), ซีเอ็นโอโอซี (CNOOC), เชลล์ (Shell) และอีดีเอฟ (EDF) ส่วนลูกค้าเฟสที่สองที่ประกาศออกมาจนถึงขณะนี้ ได้แก่ เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil), เปโตรนาส (PETRONAS) และนิว ฟอร์เทรส เอเนอร์จี (New Fortress Energy) และขณะนี้กำลังดำเนินการด้านการตลาดสำหรับโรงงานแห่งที่สามของบริษัท คือ ซีพี2 (CP2) โดยมีการลงนามในสัญญาซื้อขายกับเอ็กซอนโมบิลและนิว ฟอร์เทรสส์ เอเนอร์จี ไปแล้ว

กลุ่มผู้ให้กู้สำหรับการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อสร้างของบริษัท ประกอบด้วยธนาคารชั้นนำของโลกในหลายทวีป ได้แก่ แบงก์ ออฟ อเมริกา เอ็น เอ (Bank of America, N.A.), บังโก ซันตันเดร์ เอส เอ (Banco Santander, S.A.), แบงก์ ออฟ ไชนา (Bank of China), ไกชาแบงก์ เอส เอ (CaixaBank, S.A.), ดอยช์แบงก์ เอจี (Deutsche Bank AG) สาขานิวยอร์ก, โกลด์แมน แซคส์ แบงก์ ยูเอสเอ (Goldman Sachs Bank USA), ธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชนา ลิมิเต็ด (Industrial and Commercial Bank of China Limited), ไอเอ็นจี แคปิตอล แอลแอลซี (ING Capital LLC), เจพีมอร์แกน เชส แบงก์ เอ็น เอ (JPMorgan Chase Bank, N.A.), แลนเดสแบงค์ บาเดน เวิร์ทเทมเบิร์ก (Landesbank Baden Wuerttemberg), มิซูโฮ แบงก์ จำกัด (Mizuho Bank, Ltd.), มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเนียร์ ฟันดิง อิงค์ (Morgan Stanley Senior Funding, Inc.), เอ็มยูเอ็ฟจี แบงก์ จำกัด (MUFG Bank, Ltd.), นาทิซิส (Natixis), โนมูระ ซีเคียวริตีส์ อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ (Nomura Securities International, Inc.), รอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา (Royal Bank of Canada), ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิง คอร์ปอเรชัน (Sumitomo Mitsui Banking Corporation) ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (Bank of Nova Scotia) และทรูอิสต์ แบงก์ (Truist Bank)

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, ไอเอ็นจี, เจพี มอร์แกน, มิซูโฮ, มอร์แกน สแตนลีย์ และรอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา ทำหน้าที่เป็นธนาคารผู้ดูแลการจัดกลุ่มเงินกู้ (Lead Bank) ให้กับ เวนเจอร์ โกลบอล โดยมีเลแธม แอนด์ วัตกินส์ แอลแอลพี (Latham & Watkins LLP) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับเวนเจอร์ โกลบอล และมีสแคดเดน อาร์ปส์ สเลท มีเกอร์ แอนด์ ฟลอม แอลแอลพี (Skadden, Arps, Slate, Meagher & Flom LLP) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ให้กู้

เกี่ยวกับเวนเจอร์ โกลบอล แอลเอ็นจี

เวนเจอร์ โกลบอล คือผู้จัดจำหน่ายก๊าซแอลเอ็นจีต้นทุนต่ำในระยะยาวจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในอเมริกาเหนือที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ โดยแคลคาชูพาส ซึ่งเป็นสถานีส่งออกก๊าซแอนเอ็นจีแห่งแรกของบริษัท เริ่มผลิตก๊าซแอลเอ็นจีในเดือนมกราคม 2565 ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือพัฒนาสถานีส่งออกก๊าซหลายแห่งในรัฐลุยเซียนา ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 60 ล้านตันต่อปี เพื่อส่งออกพลังงานสะอาดในราคาย่อมเยาไปทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) ในสถานีส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีแต่ละแห่งของบริษัทด้วย

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1825841/PLNG.jpg