KTAM เปิดตัวกองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity (KT-GESG) เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนอย่างยั่งยืน เปิด IPO 1-8 กุมภาพันธ์นี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า KTAM มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการที่ครอบคลุมของนักลงทุน โดยในครั้งนี้ KTAM ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่าง “ยั่งยืน” เพื่อผลกำไรที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายผ่านธีมการลงทุนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสังคมให้ดีขึ้น จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity (KT-GESG) ซึ่งกองทุนดังกล่าว น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ใส่ใจการรักษ์โลก สังคม ในทุกมิติอย่างแท้จริง พร้อมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนที่สนใจ ระหว่างวันที่ 1-8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 นี้
กองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity (KT-GESG) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Schroder International Selection Fund Global Sustainable Growth (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียว ในชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) “C” ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งกองทุนรวมหลักมีวัตถุประสงค์การลงทุน คือ สร้างผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการลงทุนระยะยาวในตราสารทุนและหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนของบริษัททั่วโลก ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนที่ทางผู้จัดการกองทุนกำหนดไว้
กองทุนรวมหลัก Schroder International Selection Fund Global Sustainable Growth ได้รับรองความสำเร็จ ในระดับสากลในด้าน ESG ทั้งจาก MSCI ที่ ESG RATING AAA , Morningstar 5 Globe Sustainability Rating ที่เป็นระดับสูงสุดในด้าน ESG ของทั้ง 2 สถาบัน รวมถึงความสามารถในการสร้างผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ยังได้รับการจัดอันดับจาก CROWN FUND RATING ในระดับสูงสุด และจาก Morningstar ในระดับ 4 ดาว (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 2564) โดยกองทุนจะมีกลยุทธ์ที่จะเน้นการลงทุนแบบHigh Conviction ในหุ้นที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืนประมาณ 30-50 ตัว เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์การลงทุนโดยพิจารณาที่ตัวหลักทรัพย์เพียงเป็นสำคัญ โดยไม่ได้นำปัจจัยอุตสาหกรรมหรือประเทศมาประกอบการพิจารณา (Bottom- Up) และสามารถลงทุนได้โดยไม่มีข้อจำกัด (Unconstrained Portfolio) และมีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตของเงินทุนในระยะยาวที่เหนือกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI All Country World (Net Total Return) Index หลังหักค่าธรรมเนียมบนช่วงระยะเวลา 3-5 ปี นอกจากนั้นยังมีนำกรอบแนวคิดที่คิดค้นโดยทีมงานของ Schroders (SQ Framework) มาใช้ในการประเมินระดับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด (Stakeholders) รวมถึงใช้ในการประเมินคุณลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนของธุรกิจ (Sustainability Characteristic) เพื่อคัดกรองบริษัทที่จะเข้าลงทุนอย่างรอบคอบและจะไม่เลือกลงทุนในบริษัทที่มีรายได้บางส่วนมาจากธุรกิจพลังงานฟอสซิล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ การพนัน การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ และการค้าอวัยวะ เป็นต้น
นอกจากนี้ทีมผู้จัดการการลงทุนกองทุนรวมหลักจะเข้าไปมีส่วนร่วมในบริษัทที่กำลังลงทุนอยู่ เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีให้แก่ธุรกิจอีกด้วย เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวซึ่งคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และยอมรับความเสี่ยงและความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน รวมถึงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน : ความเสี่ยงทางตลาด ความเสี่ยจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
เริ่มต้นลงทุนเพียง 1,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ ธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี)
คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนและควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนทำการลงทุน
………………………………………………………