การประชุมครั้งนี้มีแขกผู้มีเกียรติกว่า 150 คนจากแวดวงการเมือง วิชาการ และธุรกิจครอบคลุมกว่า 30 ประเทศ รวมถึงอดีตประมุขแห่งรัฐ หัวหน้ารัฐบาล และผู้นำองค์กรระหว่างประเทศประมาณ 30 คน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ 60 คน เอกอัครราชทูตต่างประเทศและตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศในจีนประมาณ 20 คน โดยเข้าร่วมการประชุมในรูปแบบผสมทั้งผ่านทางออนไลน์และในสถานที่จริง แขกผู้มีเกียรติใช้โอกาสนี้ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างแข็งขันในประเด็นพหุภาคีนิยม ธรรมาภิบาลโลก และความร่วมมือ
นายโจว เจ๋อหรง ประธานสมาคม Australia China Friendship and Exchange Association, ประธาน World Leadership Alliance-Club de Madrid President’s Circle ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประธานร่วม Nizami Ganjavi International Center Global Circle กล่าวว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารแบบพบหน้ากัน แต่แวดวงสหายของ Imperial Springs International Forum ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและฉันทามติที่มีร่วมกันมากขึ้น เพราะเราทุกคนยังคงใส่ใจและรับผิดชอบต่อโลกและมนุษยชาติ
นายบัน คี มูน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) และสมาชิกกิตติมศักดิ์ของ Club de Madrid กล่าวว่า ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรายังคงเป็นเรื่องระดับโลก เราต้องการทางแก้ปัญหาที่ได้รับการสนับสนุนจากการรื้อฟื้นความร่วมมือพหุภาคี ความยั่งยืน การเป็นพันธมิตร และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
นายดานิโล เติร์ก ประธาน World Leadership Alliance – Club de Madrid และอดีตประธานาธิบดีสโลวีเนีย กล่าวว่า ความเป็นจริงนั้นคือ ปัญหาพื้นฐานของโลกทุกวันนี้ต้องอาศัยวิธีแก้ในระดับโลก ดังนั้นพหุภาคีนิยมจึงเป็นแนวทางปฏิบัติ และเราไม่มีทางเลือก เราต้องมองว่าความร่วมมือพหุภาคีเป็นกลไกที่จำเป็นสำหรับอนาคต และเราต้องพัฒนาความร่วมมือดังกล่าว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ต้องยกระดับกลไก และนี่คือสิ่งที่เราจะหารือกันในการประชุม Imperial Springs International Forum
การประชุม Imperial Springs International Forum ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุม 6 ครั้งติดต่อกัน ภายใต้หัวข้อ “Multilateralism and Sustainable Development”, “Advancing Reform and Opening-up, Promoting Win-Win Cooperation”, “Global Governance and China’s Perspective”, “Inclusive, Sustainable and Resilient Cities in the Belt and Road Initiative”, “The Belt and Road Initiative for New Opportunities and New Cooperation” และ “China-Australia Economic and Trade Relations” เนื่องด้วยการอภิปรายที่กว้างขวาง การประชุมจึงประสบความสำเร็จอย่างมาก ชื่อเสียงและอิทธิพลของการประชุมดังกล่าวทั้งในและนอกประเทศจีนได้ขยายตัวขึ้น
นางไวรา วิเก ไฟรแบร์กา อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐลัตเวีย ประธานร่วมของศูนย์ Nizami Ganjavi International Center และอดีตประธาน Club de Madrid กล่าวว่า นับตั้งแต่การก่อตั้งมา การประชุม Imperial Springs International Forum ก็ได้ยกประเด็นคำถามสำคัญที่มีความหมายทั่วโลก ซึ่งหลายประเทศสามารถเข้าร่วมได้จากทั่วทุกมุมโลกในการแสวงหาจุดร่วมเพื่อรวมกลุ่มกันดำเนินการเชิงสร้างสรรค์เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตของมนุษยชาติ
ที่มา: การประชุม Imperial Springs International Forum ประจำปี 2564