นายเชห์บาซ ชารีฟ (Shehbaz Sharif) นายกรัฐมนตรีของปากีสถานให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส (Global Times) แต่เพียงเจ้าเดียวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า สำหรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน (CPEC) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้านการเชื่อมต่อระหว่างประเทศนั้น ก้าวต่อไปควรเป็นการเติบโตเพื่อเชื่อมโยงตลาดภายในและทั่วทั้งภูมิภาค โดยนายชารีฟแสดงความเปิดกว้างต่อการมีส่วนร่วมของบุคคลที่สามในโครงการหลักของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative)
นายชารีฟกล่าวว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2556 CPEC มีความก้าวหน้าในการดำเนินการอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา CPEC ก็ได้ช่วยปากีสถานบรรเทาปัญหาคอขวดด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน จึงเป็นการวางรากฐานสำหรับการสร้างความทันสมัยทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
“ในขณะที่บุคคลที่สามเข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้น เราคาดหวังให้เพื่อนร่วมโครงการที่มีมากขึ้นได้รับประโยชน์จากบทบาทเฉพาะตัวของปากีสถานที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแบบวิน-วินที่ทำให้ CPEC มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ”
นายชารีฟกล่าวว่า ในฐานะโครงการริเริ่มการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ก้าวต่อไปควรเป็นเรื่องการเติบโตของ CPEC ในการเชื่อมต่อตลาดภายในและทั่วทั้งภูมิภาค
CPEC มีเป้าหมายที่จะสร้างความสามัคคีในภูมิภาคนี้เพื่อแสวงหาความมั่งคั่งและความมั่นคงร่วมกัน แนวทางนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ใครและไม่พยายามกีดกันฝ่ายใด นายชารีฟกล่าว พร้อมเสริมว่า หวังว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น และช่วยให้ภูมิภาคสามารถทำลายวงจรอุบาทว์ของความยากไร้และความขัดแย้งได้
ด้วยอุดมการณ์เหล่านี้เป็นแกนหลัก จึงไม่มีเหตุผลที่จะมองว่า CPEC เป็น “ภัยคุกคาม” ยกเว้นแต่ผู้ที่มองสิ่งต่าง ๆ ว่าต้องมีคนได้-คนเสีย และ “ต้องการให้ประชาชนของเรายังคงถูกกีดกันจากผลของการพัฒนา” นายชารีฟกล่าว
นายชารีฟกล่าวว่า ปากีสถานสนับสนุนการขยายโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน (CPEC) ไปยังอัฟกานิสถาน “หวังว่าความพยายามของเราจะรับรองความต่อเนื่องของการมีส่วนร่วมระหว่างประเทศกับอัฟกานิสถานโดยมีเป้าหมายที่จะได้เห็นอัฟกานิสถานที่สงบสุข มั่นคง มั่งคั่ง และเชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความมั่นคงและความมั่งคั่งในระยะยาวของภูมิภาคของเรา”
นายชารีฟยังกล่าวอีกว่า เขาได้เยี่ยมชมโครงการ CPEC มากมาย รวมถึงในกวาดาร์ เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการเป็นไปตามกำหนดเวลา และสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของเขามาโดยตลอดก็คือ การทำโครงการ CPEC ที่กำลังดำเนินการอยู่ให้เสร็จทันเวลา เพื่อเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับวาระความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคีในอนาคต
นายชารีฟกล่าวว่า หลังจากความสำเร็จในช่วงการเปิดเสรีสินค้านำร่องบางส่วนแล้ว (early-harvest phase) CPEC ก็เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
https://www.globaltimes.cn/page/202208/1272927.shtml