CGTN: สีจิ้นผิงส่งเสริมให้มณฑลเจียงซูเป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศจีนให้ทันสมัย

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ส่งเสริมให้มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีนเป็นผู้นำและแบบอย่างในการพัฒนาประเทศจีนให้ทันสมัย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง กล่าวระหว่างปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมมณฑลเจียงซู เมื่อวันพุธถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้นำจีนได้กล่าวชื่นชมรากฐานอุตสาหกรรมที่มั่นคงของมณฑลเจียงซู รวมถึงทรัพยากรทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่อุดมสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย และตลาดที่มีขนาดใหญ่โต พร้อมกับเรียกร้องให้มณฑลเจียงซูยังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการปฏิรูป การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งสนับสนุนความพยายามของจีนในการส่งเสริมการพัฒนารูปแบบใหม่ ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมืองซูโจวและหนานจิง และเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรม สถานประกอบการ ย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และในช่วงเช้าวันศุกร์ เขาได้รับฟังรายงานการทำงานจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจียงซูและรัฐบาลมณฑลเจียงซู การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ทันสมัย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า กุญแจสำคัญที่จะนำพาประเทศจีนไปสู่ความทันสมัยก็คือ การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ทันสมัย เขากล่าวเสริมว่า ควรพยายามส่งเสริมบทบาทของวิสาหกิจในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ส่งเสริมการถ่ายทอดทรัพยากรด้านนวัตกรรมไปยังวิสาหกิจ ตลอดจนส่งเสริมการประยุกต์ใช้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน เขายังเรียกร้องให้มีการวางระบบพื้นฐานเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมอย่างครอบคลุม รวมถึงเพิ่มการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผ่านช่องทางต่าง ๆ และยกระดับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ในระหว่างการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผู้นำจีนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า ในการเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมซูโจว (Suzhou Industrial Park) นายสี […]

CGTN: สงอัน “เมืองแห่งอนาคต” ของจีน และการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

ตึกระฟ้าที่กำลังก่อสร้าง ย่านอันทันสมัยที่เต็มไปด้วยรถเมล์ไร้คนขับวิ่งขวักไขว่บนถนนราดยางสายใหม่ เป็นเพียงตัวชี้วัดส่วนหนึ่งที่สะท้อนถึงการผุดขึ้นของเมืองใหม่สงอัน (Xiongan New Area) ในมณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของจีน เมืองใหม่สงอันเป็นมหานครสมัยใหม่ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพียบพร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานไฮเทค และเป็นหนึ่งในโครงการอันทะเยอทะยานของจีน ที่พัฒนาเสียจนไม่มีใครเชื่อว่าเมืองในฝันในพื้นที่ใหม่แห่งนี้เพิ่งเปิดหน้าดินไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วนี่เอง เมืองสงอันห่างจากกรุงปักกิ่งและเมืองชายฝั่งเทียนจิน 105 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อลดความแออัดของปักกิ่ง และขณะเดียวกันก็เพื่อส่งเสริม “การพัฒนาภูมิภาคที่สอดประสานกัน” ของภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย โดยคาดว่าเมืองนี้จะเทียบได้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นและเมืองใหม่เซี่ยงไฮ้ผู่ตง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้นั่งรถไฟความเร็วสูงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ไปตรวจเยี่ยมเมืองแห่งนี้เมื่อวันพุธ และได้ยกย่องใน “ผลสำเร็จที่สำคัญ” ในเมือง พร้อมกระตุ้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ ทั้งด้านนวัตกรรม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลระดับสูง การพัฒนาคาร์บอนต่ำ และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย ศูนย์กลางนวัตกรรม ทุกอย่างกำลังแปรเปลี่ยนสู่ดิจิทัลในสงอัน ในช่วงที่การพัฒนาคุณภาพสูงด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกำลังเร่งตัว รถเมล์ไร้คนขับที่กำลังทดสอบอยู่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง โดยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายการขนส่งนั้น รถเมล์เหล่านี้ไม่เพียงแต่จำแนกสัญญาณไฟจราจรและป้ายถนนได้เท่านั้น แต่ยังลดความเร็วหรือหยุดในกรณีที่มีสิ่งกีดขวางได้ด้วย เมืองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ “ถนนดิจิทัล” ยาว 153 กม. ซึ่งเซ็นเซอร์บนเสาไฟสามารถตรวจสอบจำนวนและความเร็วของยานพาหนะเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด โดยเวิ่ง เหมิงหย่ง (Weng Mengyong) ประธานสมาคมทางหลวงและการขนส่งแห่งประเทศจีน กล่าวว่า […]

CGTN: ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย คือ “แบบอย่างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งศตวรรษที่ 21”

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างจีนกับรัสเซียกำลังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้งสองประเทศร่วมกันฝ่าฟันความท้าทายระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน หนึ่งในนั้นคือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสะท้อนผ่านการประชุมออนไลน์เมื่อวันพุธ ระหว่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย โดยผู้นำทั้งสองได้เรียกความสัมพันธ์นี้ว่า “แบบอย่างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งศตวรรษที่ 21” พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์รอบด้านต่อไป “ต้นแบบความร่วมมือแห่งศตวรรษที่ 21” ในระหว่างการประชุม นายสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมั่นคง และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศในหลากหลายด้าน เขากล่าวชื่นชมรัสเซียที่สนับสนุนจีนในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และต่อต้านความพยายามในการสร้างความร้าวฉานระหว่างสองประเทศ ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 20 ปี การลงนามสนธิสัญญาความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความร่วมมือฉันมิตรจีน-รัสเซีย ทั้งสองฝ่ายจึงตัดสินใจขยายสนธิสัญญาดังกล่าวออกไปอีก 5 ปี โดยนายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การขยายสนธิสัญญามีการเพิ่มเนื้อหาใหม่เข้าไปด้วย นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ทั้งสองประเทศจะสนับสนุนกันและกันอย่างเต็มที่ในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์หลัก ๆ พร้อมกับปกป้องเกียรติของประเทศและผลประโยชน์ร่วมกัน นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า เขาพร้อมทำงานร่วมกับนายปูตินเพื่อร่างแนวทางความร่วมมือใหม่โดยอิงความสำเร็จของทั้งสองฝ่ายตลอดปีนี้ เพื่อเดินหน้าผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ระดับสูงระหว่างสองประเทศต่อไป ปริมาณการค้าทวิภาคีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อกล่าวถึงการค้าทวิภาคี นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวชื่นชมความแข็งแกร่งทางการเมืองและศักยภาพอันมหาศาล โดยการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียพุ่งทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2021 สำหรับตลอดปีนี้ […]

CGTN: จีนออกอากาศรายการพิเศษ เรียกร้องทั่วโลกบรรลุเป้าหมายลดคาร์บอน

(รายการ “Global Action Initiative 2021 – Project Earth” ออกอากาศเมื่อวันที่ 2-6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา) รายการพิเศษตลอดทั้งสัปดาห์ของ China Media Group อย่าง “Global Action Initiative 2021 – Project Earth” ได้เน้นย้ำถึงมหันตภัยร้ายของวิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศ จากมุมมองของบรรดาผู้นำ นักวิทยาศาสตร์ และนักกิจกรรมรุ่นใหม่ทั่วโลก พร้อมสำรวจแนวคิดและหนทางแก้ปัญหาเหล่านี้ รายการพิเศษในวันที่ห้านั้น มีจุดโฟกัสอยู่ที่แนวคิดและนวัตกรรมใหม่ ๆ ของเยาวชน โดยในช่วงท้ายรายการ เราได้ประกาศปฏิญญา “Global Media Strategic Framework on Climate Action” (กรอบกลยุทธ์สื่อโลกว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพอากาศ) ซึ่งเรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนทันที ทั้งยังเสนอให้มีการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรสื่อระดับโลกว่าด้วยสภาพอากาศ เพื่อวางกรอบการทำงานในเรื่องสภาพอากาศครอบคลุมขอบข่ายต่าง ๆ เช่น – เน้นการรายงานข่าวเกี่ยวกับสภาพอากาศเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในคนหมู่มาก – แชร์ทรัพยากรในการรายงานข่าวเกี่ยวกับสภาพอากาศ เพื่อทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบของสื่อต่อสังคม – ร่วมจัดอีเวนต์สื่อ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคคลทั่วไปพร้อมสนับสนุนการสร้างชุมชน […]

CGTN: จีนฉลอง 50 ปีสมาชิกยูเอ็น เดินหน้าส่งเสริมสันติภาพ ระบบพหุภาคี และความร่วมมือ

50 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม สาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับการฟื้นฟูสิทธิอันชอบธรรมในสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นับเป็นหลักชัยสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ขององค์การระหว่างประเทศแห่งนี้ ในปีนี้ จีนได้สานต่อบทบาทในยูเอ็นด้วยการให้คำมั่นว่าจะยังคงยึดมั่นในความปรารถนาตั้งแต่แรกเริ่ม แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพยายามร่วมกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเพื่อมวลมนุษยชาติ จีนเป็นผู้สร้างสันติภาพในโลก ส่งเสริมการพัฒนาทั่วโลก และรักษาความสงบเรียบร้อยของโลกมาโดยตลอด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 5 ทศวรรษอันน่าทึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ทบทวนเส้นทางอันรุ่งโรจน์ร่วมกับยูเอ็น โดยกล่าวว่าการที่จีนได้รับการฟื้นฟูสิทธิอันชอบธรรมในยูเอ็นถือเป็นชัยชนะของประชาชนชาวจีนและของทั่วโลก เขากล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากความพยายามร่วมกันของทุกประเทศที่ยึดมั่นในสันติภาพและยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง โดยถือเป็นการนำประชาชนชาวจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของประชากรโลก กลับสู่เวทียูเอ็น นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับจีนและทั่วโลก เขากล่าวเสริมว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จีนมีการพัฒนาอย่างสันติและยึดมั่นในสวัสดิภาพของมวลมนุษยชาติ ในปีนี้ จีนได้รับชัยชนะในการขจัดความยากจนสัมบูรณ์ (absolute poverty) รวมถึงบรรลุเป้าหมายการสร้างสังคมที่มีความเจริญระดับปานกลางในทุกแง่มุม และเริ่มการเดินทางครั้งใหม่เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย นับตั้งแต่ได้รับการฟื้นฟูสิทธิอันชอบธรรมในยูเอ็นเมื่อปี พ.ศ. 2514 จีนก็มีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นในกิจการระหว่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ […]

CGTN: สามนักบินอวกาศยานเสินโจว-13 เตรียมทำภารกิจนานหกเดือนบนสถานีอวกาศจีน

สามนักบินอวกาศจีน หรือ taikonaut ซึ่งเดินทางขึ้นสู่ห้วงอวกาศไปพร้อมกับยาน “เสินโจว-13” ได้เข้าสู่โมดูลหลัก “เทียนเหอ” ของสถานีอวกาศจีนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากการรายงานขององค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งประเทศจีน (CMSA) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ยานเสินโจว-13 เชื่อมกับโมดูลหลักได้สำเร็จ นักบินอวกาศทั้งสามซึ่งประกอบด้วย ไจ๋ จื้อกัง (หัวหน้า), หวัง ย่าผิง และ เย่ กวงฟู่ ก็ได้เข้าสู่โมดูลหลักเทียนเหอ โดยนับเป็นนักบินอวกาศชุดที่สองที่เข้าประจำการ นอกจากนี้ หวัง ย่าผิง ยังเป็นนักบินอวกาศหญิงคนแรกที่ได้ทำภารกิจบนสถานีอวกาศจีนและทำภารกิจออกจากยานอวกาศ (spacewalk) ลูกเรือเสินโจว-13 มีภารกิจมากมายรออยู่ข้างหน้า ตลอดระยะเวลาหกเดือนในห้วงอวกาศ ลูกเรือจะทำภารกิจต่าง ๆ ตามกำหนดการ เย่ กวงฟู่ ให้สัมภาษณ์กับ China Media Group (CMG) ก่อนออกเดินทางว่า จะมีการทำภารกิจออกจากยานอวกาศ 2-3 ครั้ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เขากล่าวเสริมว่า ภารกิจเฉพาะเจาะจงอื่น ๆ จะมีการดำเนินการและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์จริง ขณะเดียวกัน ไจ๋ จื้อกัง ให้สัมภาษณ์กับ CMG […]

CGTN ปิดโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว “Media Challengers” ได้รับความสนใจจาก Gen Z ทั่วโลก

CGTN จัดโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว “The Media Challengers” รอบสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ณ เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของจีน โดยผู้เข้ารอบสุดท้าย 24 คนมีทั้งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในสถานที่จริงและเข้าร่วมจากทางไกล ทั้งหมดได้ร่วมการแข่งขันแบบสดและทำกิจกรรมที่สำคัญที่สุดของการแข่งขันในรอบสุดท้าย ก่อนหน้านี้ ผู้เข้ารอบถูกแบ่งออกเป็น 4 ทีม และได้เดินทางไปยังเซี่ยงไฮ้ อู่ฮั่น ซีอาน หรือทะเลสาบผู่เจ่อเฮยในยูนนาน เพื่อร่วมรายการเรียลลิตี้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงทักษะต่าง ๆ ด้านการสื่อสารมวลชน ในรอบสุดท้าย นอกจากต้องนำเสนอผลงานตัดต่อวิดีโอแล้ว ผู้เข้าแข่งขันยังต้องฝ่าฟัน “ภารกิจท้าทายรอบสุดท้าย” อีกหลายอย่าง ทั้งการพูด การโต้วาที และการอ่านบท โดยความสามัคคีของทีมและความสามารถส่วนบุคคลถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่ กรรมการมากประสบการณ์ 4 ท่าน และนักรีวิวสื่อ 8 ท่าน รับหน้าที่ให้คะแนนแต่ละทีม ขณะเดียวกัน คณะกรรมการออนไลน์ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 200 คนสุดท้ายก็ได้ร่วมตัดสินด้วย นอกจากนั้นยังมีผู้เข้าร่วมออนไลน์ 60 คนจากทั่วโลกมาช่วยเชียร์ผู้เข้าแข่งขัน อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วทุกมุมโลกแบบเรียลไทม์ เมื่อการแข่งขันรอบสุดท้ายปิดฉากลงได้มีการมอบรางวัลประเภทกลุ่มและประเภทบุคคลให้แก่ผู้ชนะ โครงการ The Media Challengers ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวชาวจีนรุ่นใหม่ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจีนและเผยแพร่วัฒนธรรมจีนไปทั่วโลกเท่านั้น […]

CGTN: ผู้แข่งขัน 24 คนเข้ารอบสุดท้ายโครงการ Media Challengers

CGTN ประกาศรายชื่อ 24 คนที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของโครงการคัดเลือกผู้สื่อข่าว “The Media Challengers” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังผ่านการคัดเลือกหลายต่อหลายรอบ ในที่สุดหนุ่มสาว 24 คนจากผู้เข้าแข่งขันหลายพันคนจากกว่า 130 ประเทศและดินแดน ก็ผ่านการคัดเลือกและเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 24 คนได้มารวมตัวกันที่ Shougang Park และ National Winter Training Center Ice Hockey Hall ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ เพื่อเตรียมออกเดินทางไปยังซีอาน อู่ฮั่น เซี่ยงไฮ้ หรือยูนนาน และทำการแข่งขันรอบสุดท้ายด้วยการเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ โครงการ “The Media Challengers” เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 โดยมีเป้าหมายในการรวบรวมผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านสื่อใหม่จากทั่วโลก และนำเสนอแนวคิดใหม่ให้กับทั่วโลกในบริบทของการหลอมรวมสื่อ การคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 24 คนใช้คะแนนที่ได้รับจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและ “ยอดไลก์” บนโลกออนไลน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นที่ชื่นชอบมากแค่ไหนในสายตาแฟน ๆ ในยุคสื่อใหม่ โดยผู้ที่ผ่านเข้ารอบได้เข้าร่วม “รายการเรียลลิตี้” เพื่อทำภารกิจสุดท้าทายต่าง […]

CGTN: จีนประกาศบรรลุเป้าหมาย “สังคมเสี่ยวคัง” อย่างเป็นทางการ ฉลองพรรคคอมมิวนิสต์จีนครบรอบ 100 ปี

ในพิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ประกาศบรรลุเป้าหมายในการสร้างสังคมที่มีความเจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลางทุกประการอย่างเป็นทางการ ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นจุดสุดยอดบนเส้นทางตลอด 2,500 ปีของชาวจีนในการไขว่คว้าหา “เสี่ยวคัง” ซึ่งก็คือชีวิตที่สงบสุข อันเป็นผลจากความทุ่มเทของพรรคคอมมิวนิสต์จีนตลอด 100 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการทำงานอย่างไม่ลดละของรัฐบาลและความเฉลียวฉลาดของชาวจีนกว่า 4 ทศวรรษ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวในการชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ว่า “เราได้บรรลุความสำเร็จในรอบ 100 ปีแรก จากการที่ได้สร้างสังคมที่มีความเจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลางทุกประการ” เสียงเชียร์อันดังสนั่นจากฝูงชนในจัตุรัสเทียนอันเหมิน สะท้อนให้เห็นความภาคภูมิใจและความเบิกบานใจของคนจีนทั้งชาติ ในการบรรลุเป้าหมายที่ได้มาอย่างยากเย็นเช่นนี้ ความหมายของ “สังคมเสี่ยวคัง” ในประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน “เสี่ยวคัง” เป็นคำที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนนำมาใช้เพื่ออธิบายเป้าหมายการพัฒนาชาติที่ทางรัฐบาลยึดถือ โดยรูปแบบที่นำมาใช้อย่างกว้างขวางที่สุดอย่าง “สังคมเสี่ยวคังรอบด้าน” สะท้อนให้เห็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าในการสร้างความทันสมัยและกำจัดความยากจน แนวคิดดังกล่าวประกอบด้วย “แผนเพิ่มรายได้เป็นเท่าตัว” โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม GDP และรายได้ต่อหัวเป็นเท่าตัวทั้งสำหรับชาวจีนในเมืองและชนบทภายในปี 2563 เมื่อเทียบกับระดับเมื่อปี 2553 ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ค่อนข้างยากจนเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มากกว่า 100 ล้านล้านหยวน (ราว […]

CGTN: การพัฒนาหาใช่อุดมการณ์ หากแต่เป็นความจริง

“แมวขาวหรือแมวดำไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้เป็นพอ” วาทะข้างต้นของอดีตผู้นำ เติ้ง เสี่ยวผิง คือภาพสะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน เมื่อจีนได้เลือกเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของประเทศ ก่อนที่เติ้งจะนำจีนเดินไปบนเส้นทางแห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศในปีพ.ศ.2521 จีนนั้นถูกขังอยู่ในกรอบของอุดมการณ์ พยายามจำแนกแยกแยะความแตกต่างระหว่างสังคมนิยมกับทุนนิยม ยืนกรานความคิดของตนว่าทุกอย่างและอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับสังคมนิยมย่อมต้องดีกว่าระบบทุนนิยม ในช่วงเวลานั้น สังคมจีนอาจบรรลุความเท่าเทียมในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มันกลับกลายเป็นความยากจน ทุกคนยากจนอย่างเท่าเทียมกัน เติ้งประกาศว่า หากสังคมนิยมหมายถึงความยากจน อุดมการณ์นั้นก็ไม่เหมาะกับจีน และได้เลือกสังคมนิยมแบบจีนเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ทางเลือกดังกล่าวไม่ใช่การยึดติดอยู่กับเศรษฐกิจที่ควบคุมจากส่วนกลางอย่างเข้มงวด โดยเมื่อประเทศเข้าสู่ระยะใหม่ของการพัฒนา จีนก็เริ่มเปิดกว้างและปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม นับตั้งแต่นั้น สังคมนิยมแบบจีนก็ได้กลายเป็นพลังแห่งการปลดปล่อยที่ทรงพลังที่สุดของจีน ก่อเกิดนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นผู้ประกอบการ และผลิตภาพ จีนเป็นประเทศที่มีพลวัตมากขึ้น มีการลองผิดลองถูก และมองการณ์ไกล ขณะที่ชาวจีนกลายเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในการปฏิรูปและการทดลองทางสังคม ในบริบทกว้าง ๆ นี้เองที่จีนได้พลิกโฉมประเทศจนก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลก อีกทั้งการเป็นประเทศสังคมนิยมยังไม่ขัดกับการส่งเสริมเศรษฐกิจระบบตลาดและการค้าระหว่างประเทศ นับตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกในปี 2544 การส่งออกของจีนขยายตัวขึ้นเกือบสิบเท่าเป็นมูลค่า 2.59 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2563 และการนำเข้าเพิ่มขึ้นเกือบแปดเท่าครึ่งเป็น 2.05 ล้านล้านดอลลาร์ ความยืดหยุ่นของสถาบันชาติอธิบายความก้าวหน้าเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี โดยช่วยให้ชาวจีนหลุดพ้นจากความยากจน ตลอดจนการแบ่งแยกอุดมการณ์และความเห็นต่างทางการเมือง พร้อมปลูกฝังจิตวิญญาณที่เข้มแข็งของการเป็นนักปฏิบัติ มองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง และขยันทำงาน หนักเอาเบาสู้ จีนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วสู่ศตวรรษที่ […]

CGTN: นักบินอวกาศของยานเสินโจว-12 กลายเป็นคนจีนกลุ่มแรกที่ได้ปฏิบัติงานในสถานีอวกาศ

สามนักบินอวกาศจีนได้เข้าไปปฏิบัติงานในสถานีอวกาศของจีนภายใต้ภารกิจเสินโจว-12 นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่เคยมีชาวจีนขึ้นไปปฏิบัติงานในสถานีอวกาศมาก่อน สำนักงานด้านวิศวกรรมอวกาศของจีน (China Manned Space Engineering Office) เปิดเผยว่า นักบินอวกาศทั้งสามซึ่งประกอบด้วย เนี่ย ไห่เฉิง, หลิว ป๋อหมิง และ ถัง หงป๋อ ได้ออกจากยานอวกาศเสินโจว-12 ที่ยิงขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันพฤหัสบดี และเข้าสู่โมดูลหลัก “เทียนเหอ” ของสถานีอวกาศ เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้เกิดขึ้น 20 ปีหลังจากที่มีการปล่อยสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ขึ้นสู่วงโคจร แต่ไม่อนุญาตให้นักบินอวกาศจีนเข้าสถานี เนื่องจากกฎหมายของสหรัฐอเมริกาห้ามองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ทำงานร่วมกับนักบินอวกาศจีน ในขณะที่สถานีอวกาศนานาชาติกำลังจะปลดประจำการ และรัสเซียตัดสินใจถอนตัวจากโครงการ จีนได้สร้างสถานีอวกาศใหม่และเชิญชวนทั่วโลกเข้าร่วมโครงการ สถานีอวกาศของจีน ซึ่งโคจรรอบโลกที่ระดับความสูงราว 400 กิโลเมตร ยังคงอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีอีก 8 ภารกิจที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ซึ่งรวมถึงภารกิจสามนักบินอวกาศเข้าประจำการ ปัจจุบัน สถานีอวกาศของจีนประกอบด้วยโมดูลหลักชื่อเทียนเหอ ยานบรรทุกสินค้าเทียนโจว-2 และยานอวกาศเสินโจว-12 ซึ่งเชื่อมกับสถานีอวกาศได้ไม่ถึงสามชั่วโมงก่อนที่นักบินอวกาศจะเข้าไปในสถานีอวกาศ Astronaut, Cosmonaut หรือ Taikonaut ชาวจีนจำนวนหนึ่งภูมิใจอย่างมากกับความสำเร็จครั้งนี้ จนยกประเด็นการเรียกนักบินอวกาศขึ้นมาถกกัน […]

CGTN: สาม “สมบัติล้ำค่า” ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับจากบิดา

วันพ่อตรงกับวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน หรือวันที่ 20 มิถุนายนในปีนี้ พ่อมักมีอิทธิพลอย่างสูงต่อลูก ๆ และสำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็เช่นเดียวกัน มีคุณสมบัติอย่างน้อยสามประการที่นายสี จิ้นผิง ได้รับอิทธิพลมาจากนายสี จงซุน ผู้เป็นบิดา (พ.ศ. 2456-2545) และอดีตผู้นำคนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและของประเทศ ยึดหลักปรัชญาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผู้นำจีนจำนวนมากเริ่มทำงานจากระดับรากหญ้าและผ่านความยากลำบากเช่นเดียวกับคนทั่วไป จึงเข้าใจความต้องการของประชาชนเป็นอย่างดี และเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งในการกำหนดนโยบายของประเทศโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและปฏิบัติได้จริง หลักปรัชญาประชาชนเป็นศูนย์กลางคือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่สำคัญที่สุดซึ่งนายสี จิ้นผิง ได้รับมาจากบิดา ผู้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนมีความเท่าเทียมกัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐต้องอยู่ท่ามกลางประชาชน บิดาเคยบอกกับนายสี จิ้นผิง ว่า “ไม่ว่าจะทำงานตำแหน่งใด จงรับใช้ประชาชนอย่างแข็งขัน นึกถึงประโยชน์ของประชาชนจากใจจริง รักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับประชาชน และวางตัวให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายเสมอ” นายสี จิ้นผิง ยึดมั่นใน “การรับใช้ประชาชน” โดยหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 เขาได้เยี่ยมเยือน 14 พื้นที่ยากจนสุดขีด โดยไปตามหมู่บ้านและบอกกับชาวบ้านว่าเขาแค่มา “รับใช้ประชาชน” ในระหว่างการตรวจเยี่ยมพื้นที่ต่าง ๆ นายสี จิ้นผิง มักพูดคุยกับชาวบ้าน ใส่ใจในความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ รับใช้ประชาชน นายสี […]

1 2