Country Garden เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2563

– สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาอย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและยึดคุณภาพเป็นสำคัญ

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา Country Garden (HK:2007) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2563 ซึ่งแสดงให้เห็นแนวปฏิบัติและความสำเร็จล่าสุดของบริษัทในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่า

รายงานดังกล่าวระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Country Garden ได้พลิกโฉมตัวเองจนกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีความหลากหลาย ที่สร้างชีวิตอันสุขสบายให้โลกใบนี้ โดยนอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจโรงแรมแล้ว ทางบริษัทยังได้ขยายธุรกิจไปยังภาคส่วนนวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะและการเกษตรสมัยใหม่ด้วย Country Garden เป็นผู้นำด้านการผลิตอัจฉริยะสำหรับการก่อสร้าง โดยเป็นผู้บุกเบิกในแง่นวัตกรรมวิธีการก่อสร้าง บริษัทผนึกกำลังกับบริษัทในเครืออย่าง Bright Dream Robotics และนำโมเดลการสร้างแบบ Robots+BIM+Prefabricated ไปใช้ เพื่อท้าทายอุปสรรคขวากหนามที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญ และมีความคืบหน้าสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของจุดทำงาน คุณภาพของโปรเจกต์ ประสิทธิภาพ และการลดมลพิษ ซึ่ง ณ ปลายปี 2563 ที่ผ่านมานั้น Bright Dream Robotics มีหุ่นยนต์ก่อสร้างอยู่ระหว่างการพัฒนา 49 ตัว โดยมีพื้นที่โครงการนำร่องรวมกันกว่า 300,000 ตารางเมตร

Country Garden ยังได้เร่งการนำหุ่นยนต์จัดเตรียมอาหารไปใช้ทั่วจีนด้วย โดยบริษัทในเครืออย่าง Qianxi Robotics Group ได้พัฒนาอุปกรณ์หุ่นยนต์และระบบซอฟต์แวร์กว่า 80 รายการ เพื่อใช้เตรียมและเสิร์ฟอาหารจีน หม้อไฟ บะหมี่ และอาหารประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย

Country Garden มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา Country Garden Agriculture ได้จดทะเบียนสิทธิบัตร 6 ฉบับเกี่ยวกับสาร Bifidobacterium adolescentis และวิธีการใช้งาน ซึ่งเป็นเครื่องหมายโมเลกุลบ่งชี้ลักษณะภายนอกของข้าว เช่นเดียวกับการเพิ่มจำนวนใบข้าวฟ่างด้วยเทคนิค PCR บริษัทได้จัดตั้งโครงการที่มุ่งเน้นคุณภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนมีมากมายในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Wuhan Hannan “China Seed Valley”, Zhaoqing Agriculture Industry Park และ Yunnan Baoshan Agriculture Industry Park

การใส่ใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ Country Garden นำมาใช้เป็นหลักการทำงานมาโดยตลอด

Country Garden ดำเนินงานโดยมีการใส่ใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นปรัชญาธุรกิจ โดยได้เกิดความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในแง่ของอาคารและการก่อสร้างอย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างโครงการใหม่ 64 แห่ง ที่สอดคล้องกับมาตรฐานประเมินอาคารสีเขียวระดับประเทศ ในจำนวนนี้มี 46 แห่งที่ได้รับการรับรองเป็นอาคารสีเขียว GB นอกจากนี้ ยังมี 6 โครงการที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน LEED ด้วยพื้นที่รวมกัน 39,454 ตารางเมตร รวมถึงเมืองฟองน้ำ 111 โครงการ ด้วยพื้นที่รวมกัน 7.7682 ล้านตารางเมตร

รายงานดังกล่าวรายงานผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมโดยยึดตามมาตรฐานระดับสากลและข้อกำหนดของจีนอย่างเคร่งครัด Country Garden ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้กว่า 39% เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน นับเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ในการประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนในอุตสาหกรรม

Country Garden ได้ทุ่มเทในการยกระดับการบริหารจัดการ ESG อยู่เสมอ โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2563 บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดตัวแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูล ESG เพื่อเร่งการยกระดับงานบรรษัทภิบาลให้มีความเป็นดิจิทัล

อุทิศตนต่อการกุศลและงานบริการสังคม

Country Garden ได้ใช้เวลากว่าหลายปีในการมีส่วนร่วมในงานด้านการกุศลและบริการสังคม พร้อมปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

นับจนถึงวันนี้ Country Garden ได้บริจาคเงินไปกว่า 8.7 พันล้านหยวนให้โครงการสังคมสงเคราะห์ในจีน และมีส่วนร่วมในโครงการบรรเทาความยากจนในเขตปกครอง 57 แห่งใน 16 มณฑลด้วยกัน ช่วยให้ผู้คนหลุดพ้นจากความยากจนได้กว่า 490,000 ชีวิต

Country Garden ได้รับการยอมรับจากสถาบันชั้นนำหลายแห่ง จากความพยายามอันไม่ลดละในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทได้ไต่อันดับจนมาอยู่ที่อันดับ 147 ในการจัดอันดับ Fortune Global 500 ประจำปี 2563 ขึ้นแท่นบริษัทอสังหาฯ ที่มีอันดับสูงสุดในการจัดอันดับนี้ และในปี 2564 Country Garden อยู่ที่อันดับ 140 ในการจัดอันดับบริษัทมหาชนรายใหญ่ของโลกอย่าง Forbes Global 2000 ซึ่งบริษัทอยู่ในรายชื่อนี้มา 12 ปีติดต่อกันแล้ว

สำหรับอนาคตข้างหน้า Country Garden จะยังคงส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป และเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายของรัฐบาลจีนในการบรรลุจุดสูงสุดของการปล่อยก๊าซภายในปี 2573 ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2603 และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ บริษัทจึงมีแผนที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพต่อไป เพื่อความสำเร็จในอีกหลายศตวรรษต่อจากนี้