นำเงินทุนก้อนใหม่ขับเคลื่อนการเติบโตและขยายธุรกิจข้อมูลและเทคโนโลยีของ Songtradr
Songtradr ตลาดลิขสิทธิ์เพลง B2B ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทระดมทุนได้มากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ หลังระดมทุนได้ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการระดมทุนรอบ Series D ส่งผลให้บริษัทระดมทุนรวมกันได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว ทำให้บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่กว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“Songtradr กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เราเดินหน้าใช้เทคโนโลยีพัฒนาอีโคซิสเต็มเพลงแบบ B2B ของเรา และผนวกรวมทรัพย์สินที่เราได้มา การได้นักลงทุนระดับบลูชิปมาลงทุนในการระดมทุนรอบนี้ เป็นอีกเครื่องพิสูจน์วิสัยทัศน์ของเราต่อวงการเพลงในอนาคตในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเป็นการวางรากฐานอันแข็งแกร่งสำหรับอนาคต” Paul Wiltshire ซีอีโอของ Songtradr กล่าว “Songtradr มีรายได้โตกว่า 100% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2020 และเราก็พร้อมบรรลุเป้าหมายนี้อีกครั้งในปี 2021”
การระดมทุนรอบนี้ประกอบด้วยนักลงทุนภาคสถาบันในออสเตรเลียอย่าง Regal, Aware Super, Perennial, Argo และ Greencape ตลอดจนการลงทุนต่อเนื่องจากคุณ Richard White ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Wisetech Global (ASX: WTC) สำหรับการระดมทุนรอบ Series C ก่อนหน้านี้ บริษัทระดมทุนได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนสิงหาคม 2020
“ผมได้เห็น Songtradr เติบโตอย่างรวดเร็วตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ในช่วงเวลาดังกล่าว คุณ Paul และทีมงานทำผลงานได้ตามวิสัยทัศน์มาตลอด ซึ่งเป็นเรื่องน่าประทับใจมากไม่ว่าจะเอามาตรฐานใดมาตัดสิน” Richard White ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Wisetech Global กล่าว “Songtradr ได้เสริมการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและแผนแม่บทผลิตภัณฑ์อันก้าวล้ำด้วยกลยุทธ์ M&A อิมแพคสูง ที่ช่วยยกระดับศักยภาพการเติบโตระยะยาวไปอีกขั้น ผมเชื่อว่า ขณะนี้บริษัทมีศักยภาพ บทบาทระดับโลก และความสามารถ ในการเร่งแผนงานเพื่อพลิกโฉมวงการเพลงแล้ว”
นับตั้งแต่ที่เสร็จสิ้นการระดมทุนรอบ Series C ทาง Songtradr ได้ดำเนินกลยุทธ์ M&A เพื่อเสริมแกร่งอีโคซิสเต็มด้วยบริษัทเพลงสายครีเอทีฟและมุ่งใช้เทคโนโลยีชั้นนำของโลก ผ่านเอเจนซีเพลงสายครีเอทีฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง MassiveMusic เช่นเดียวกับ Cuesongs, Song Zu, Pretzel และ Tunefind
Songtradr เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอสแอนเจลิส และมีสำนักงานสาขาทั่วยุโรปและเอเชียแปซิฟิก มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการจัดจำหน่ายและออกใบอนุญาตใช้เพลงให้ลูกค้าระดับบลูชิปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Disney, Netflix, Apple, Coca-Cola, Amazon และ Google อีโคซิสเต็มของบริษัทเชื่อมต่อศิลปิน นักเขียนเพลง และเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงกว่า 600,000 ราย เข้ากับตลาดผู้ซื้อเพลงแบบ B2B ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ เอเจนซีโฆษณา แพลตฟอร์มสตรีมมิง เครือข่าย SVOD ภาพยนตร์ ทีวี บริษัทเกม และอินฟลูเอนเซอร์