เวนเจอร์ โกลบอล แอลเอ็นจี (Venture Global LNG) ออกแถลงการณ์หลังจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของสหรัฐอเมริกา (FERC) เผยแพร่รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมฉบับสมบูรณ์ (FEIS) ในเชิงบวกสำหรับโครงการ CP2 LNG ซึ่งเป็นสถานีส่งออกก๊าซแห่งที่สามของบริษัทเวนเจอร์ โกลบอล โดยเนื้อหาของแถลงการณ์มีดังนี้
“เวนเจอร์ โกลบอล ขอขอบคุณคณะกรรมการฯ และหน่วยงานความร่วมมืออื่น ๆ ภายใต้กฎหมายนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NEPA) ซึ่งประกอบด้วย หน่วยทหารช่างแห่งกองทัพบกสหรัฐ, กระทรวงพลังงาน, หน่วยยามฝั่ง, สำนักงานความปลอดภัยด้านท่อส่งและวัตถุอันตราย (PHMSA) และสำนักงานบริการประมงทะเลแห่งชาติ ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมฉบับสมบูรณ์ (FEIS) สำหรับโครงการ CP2 LNG” ไมค์ ซาเบล (Mike Sabel) ซีอีโอของเวนเจอร์ โกลบอล แอลเอ็นจี กล่าว “นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงการในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งจะทำให้เราได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ และเริ่มการก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ตามแผนที่วางไว้ โครงการ CP2 ยังคงได้รับแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งในเชิงพาณิชย์และด้านการเงิน โดยโครงการขายได้แล้วประมาณครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้สถานีส่งออกก๊าซแห่งนี้จะมีความสำคัญต่อการสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว รวมทั้งสนับสนุนการลดการปล่อยมลพิษทั้งในยุโรปและเอเชียตลอดหลายปีข้างหน้า”
จนถึงปัจจุบัน เวนเจอร์ โกลบอล ทำสัญญาขายกำลังการผลิตในโครงการ CP2 ไปแล้ว 9.25MTPA จากกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 20MTPA ภายใต้สัญญาซื้อขายระยะเวลา 20 ปี และยังคงมีการเจรจาอย่างต่อเนื่องสำหรับกำลังการผลิตที่เหลืออยู่ ทั้งนี้กำลังการผลิตกว่าครึ่งหนึ่งที่มีการทำสัญญานั้นเป็นของลูกค้าเยอรมันและญี่ปุ่น โดยลูกค้า CP2 LNG ได้แก่ เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil), เชฟรอน (Chevron), เจร่า (JERA), นิว ฟอร์เทรส เอนเนอร์จี (New Fortress Energy), อินเพ็กซ์ (INPEX), ไชน่า ก๊าซ (China Gas), อีเอ็นบีดับเบิ้ลยู (EnBW) และเอสอีเอฟอี (SEFE)
โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/2031724/venture_Logo.jpg