– รายได้จากการดำเนินงาน 3.88 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 80.40% เมื่อเทียบเป็นรายปี
– กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1502.97% เมื่อเทียบเป็นรายปี
– กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนแตะที่ 268.18 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 182.44% เมื่อเทียบเป็นรายปี และทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสเดียว
– สินเชื่อลูกหนี้การค้าลดลง 46.26% เมื่อเทียบเป็นรายปี
XCMG (SHE: 000425) ผู้ผลิตเครื่องจักรก่อสร้างชั้นนำ เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 28 เมษายน โดยทำสถิติสูงสุดทั้งรายได้และกำไร นับเป็นหมุดหมายใหม่ของการเติบโตทางธุรกิจในยุคหลังโควิด-19
รายงานแสดงให้เห็นว่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของXCMG Construction Machinery เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 44.63% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 112.73 ล้านดอลลาร์ ยกตัวอย่างเช่นการผลิตอัจฉริยะ (IM) บริษัท XCMG ได้สร้างสายการผลิตอัจฉริยะหลายสาย ซึ่งรวมถึงสายการผลิตอัจฉริยะแห่งแรกของโลกสำหรับการผลิตแป้นหมุนเครน และการสร้างโรงงานแห่งแรกในอุตสาหกรรมเครื่องจักรก่อสร้างที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G อย่างอิสระด้วยความสามารถในการประมวลผลแบบ Multi-access Edge เพื่อรองรับงานด้าน R&D, การผลิต และอีกมากมาย
ด้วยความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ถือเป็นแนวหน้าของอุตสาหกรรม ชุดโซลูชันแบบบูรณาการที่ครอบคลุม และความสามารถในการพัฒนาธุรกิจในต่างประเทศ XCMG Construction Machinery จึงเดินหน้าสร้างความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้จากตัวบ่งชี้การดำเนินงานด้านต่างๆ
ความสำเร็จที่โดดเด่นของ XCMG ตลอดไตรมาสแรก ได้แก่
– ส่งมอบอุปกรณ์เครื่องจักรก่อสร้างกว่า 400 เครื่องไปยังประเทศต่างๆ ใน Belt and Road Initiative (BRI)
– เครนตีนตะขาบที่ใหญ่ที่สุดในโลก รุ่น XGC88000 สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จในการติดตั้งทาวเวอร์เครนขนาด 2,600 ตันที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการโรงกลั่น Shenghong
– ส่งมอบรถเกรดเดอร์ GR2605 ที่ผลิตตามสเปคให้บริษัท Rio Tinto
– แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม “Hanyun” ติดอันดับท็อป 3 โครงการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมใหม่
– เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดิจิทัลหลัก ได้แก่ XCMG-Global Service System (X-GSS)
การพัฒนาธุรกิจอย่างรวดเร็วของ XCMG ในไตรมาสแรกของปี 2564 นั้นเป็นผลมาจากรากฐานที่แข็งแกร่งของปี 2563 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งความพยายามในการพัฒนาตลาดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ รายงานประจำปี 2563 ของ XCMG Construction Machinery เผยให้เห็นว่า รายได้ของปีที่แล้วอยู่ที่ 1.149 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องจักรสำหรับการยก การตอกเสาเข็ม การขูด และวิศวกรรม มีรายได้ 4.11 พันล้านดอลลาร์, 1.14 พันล้านดอลลาร์, 1.03 พันล้านดอลลาร์ และ 2.74 พันล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 27.15%, 24.05%, 4.70% และ 34.68% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในขณะเดียวกัน รายได้จากส่วนงานหลักของบริษัททำสถิติใหม่ โดยธุรกิจรถเครนทำรายได้มากกว่า 3.11 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากส่วนประกอบหลักทะลุ 1.55 พันล้านดอลลาร์ และรายได้จากเครื่องจักรสำหรับงานฐานรากอยู่ที่กว่า 1.24 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จากเครนสำหรับงานถนน การบรรทุก และรถเครนตีนตะขาบ มีมูลค่ามากกว่า 77.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของบริษัทยิ่งขึ้นไปอีก XCMG Construction Machinery กลับมาซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 21 เมษายน พร้อมทั้งเปิดเผยแผนการเข้าจดทะเบียนด้วยการควบรวมธุรกิจเครื่องจักรสำหรับงานเหมือง (ส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในประเทศ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ของจีน) รถขุดและทาวเวอร์เครน (ติดหนึ่งในสองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศ) และเครื่องจักรสำหรับงานคอนกรีต (ติดหนึ่งในสามส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างของบริษัท โดยการควบรวมดังกล่าวจะช่วยให้ XCMG บรรลุเป้าหมายการบูรณาการทรัพยากรและการทำงานร่วมกันทางธุรกิจ
“ด้วยการลดผลกระทบที่ทับซ้อนและด้วยโมเมนตัมของตลาดทุน เราคาดว่ามูลค่าโดยรวมของ XCMG จะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต อีกทั้งการบริการที่ครอบคลุมของเราก็จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน” Wang Min ประธานและซีอีโอของ XCMG กล่าว
หลังควบรวมแล้ว ความสามารถในการแข่งขันด้านหลักๆ และบทบาทในอุตสาหกรรมของ XCMG จะเพิ่มสูงขึ้น ผ่านทางการบูรณาการสินทรัพย์ บุคลากร การสร้างแบรนด์ และการบริหารจัดการในเชิงลึก อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นให้แก่แบรนด์ต่างๆ ในเครือ
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1514817/XCMG.jpg