Lazada

แนะวิธีสังเกตและป้องกันผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมผู้สูงอายุในบ้าน

โรคสมองเสื่อม หรือ ภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ คือโรคที่ผู้ป่วยมีความเสื่อมถอยของการทำงานของสมองในภาพรวมซึ่งเกิดจากการสูญเสียเซลล์สมองหลายส่วน ผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมจะมีปัญหาในการทำงานของสมองขั้นสูง 6 ด้าน คือ ด้านสมาธิ ด้านการคิด ตัดสินใจ ด้านความจำ ด้านการใช้ภาษา ด้านมิติสัมพันธ์ และด้านการเข้าสังคม โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุกำลังจะเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของไทย กรมสุขภาพจิตพบว่าผู้สูงวัยในไทยสมองเสื่อมกันมากถึง 8 แสนกว่ารายในปัจจุบัน ปู่ย่าตายายของเราที่อายุ 80 ขึ้นไป กว่าร้อยละ 50 มักมีอาการสมองเสื่อม ลูกหลานต้องช่วยกันดูแลอย่างเป็นพิเศษด้วยความใจเย็น
แพทย์หญิงรุ่งทิพย์ ชัยธีรกิจ แพทย์ชำนาญพิเศษด้านประสาทวิทยา ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธน เผยถึงวิธีการสังเกตเบื้องต้นว่าลูกหลานสามารถช่วยกันสังเกตผู้สูงอายุที่บ้านได้ว่าเข้าข่ายภาวะสมองเสื่อมหรือไม่ อาทิ ผู้สูงอายุมีอาการหลงลืม สับสนเรื่องเวลาหรือสถานที่อาจลืมว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ใดและเดินทางมายังสถานที่นั้นได้อย่างไร ไม่สามารถรับรู้หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ใช้ภาษาผิดปกติ บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า เฉื่อยชา โมโหฉุนเฉียวง่ายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนการเข้าสู่ภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุในครอบครัวซึ่งผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมจะสูญเสียการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปและมีการสูญเสียความจำระยะสั้นย้อนกลับไปถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ ทั้งที่เพิ่งพูดคุยกันภายใน 5-10 นาทีที่ผ่านมา มากกว่านั้น เกิดหลงทางขึ้นมาแม้เป็นเส้นทางที่ตนคุ้นเคยมาทั้งชีวิตและผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการทางจิตประสาท เช่น หูแว่ว ภาพหลอน เข้าใจว่ามีคนคิดจะมาทำร้ายตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นความอันตรายให้กับผู้สูงอายุในระดับนึง หากผู้สูงอายุมีอาการดังกล่าว แม้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ลูกหลานควรดูแลและพาผู้สูงอายุมาพบพร้อมปรึกษาแพทย์ทันที ทั้งนี้โรคสมองเสื่อมสามารถป้องกันได้โดยควรกระตุ้นสมองให้ทำงานทั้ง 6 ด้าน ด้วยการทำกิจกรรมฝึกสมองบ่อย ๆ เช่น ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ดูแลสุขภาพจิตให้ดีร่วมกิจกรรมทางสังคมที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำงานอาสาสมัคร เข้าร่วมชมรมต่าง ๆ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เดินในที่อากาศปลอดโปร่ง กิจกรรมเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุห่างไกลจากโรคสมองเสื่อมได้ แพทย์หญิงรุ่งทิพย์ กล่าวสรุป
การรักษา แพทย์จากศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธน จะทำการซักประวัติเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความถดถอยด้านการทำงานของสมอง ทดสอบสมองเพื่อวัดสมรรถภาพการทำงานประเมินความบกพร่องในการรับรู้เพื่อใช้วินิจฉัยโรค ร่วมกับการตรวจร่างกายและเลือกการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เหมาะสม เพื่อให้การวินิจฉัยแยกโรคที่ถูกต้องว่าผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ และมีสาเหตุจากอะไร โดยการตรวจในห้องปฏิบัติการจะประกอบไปด้วย การตรวจเลือด การตรวจภาพสมองด้วยเครื่อง Computed Tomography (CT) หรือ Magnetic Resonance Imaging (MRI) การรักษาจะประกอบด้วยการให้ยาที่ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นและชะลอการดำเนินโรคให้ช้าลง ซึ่งมักจะได้ผลกับผู้ป่วยในระยะเริ่มแรก ร่วมกับการให้ยารักษาอารมณ์และพฤติกรรมที่ผิดปกติในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง การรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนเพิ่มความจำและความสามารถของสมอง เป็นต้น
การมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการดูแลผู้ป่วย เพราะเป็นงานหนักที่เหนื่อยทั้งกายและใจ ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธนพร้อมให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม พร้อมให้ความรู้แก่ลูกหลานที่ต้องดูแลผู้สูงอายุในบ้าน มุ่งเน้นให้บริการตามมาตรฐานและการดูแลด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาด้านสมองและระบบประสาทมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กัน โดยทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ ที่มีความชำนาญการในการรักษาเฉพาะทาง ตลอดจนและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวสมองและระบบประสาทโดยเฉพาะ
โรงพยาบาลนครธน ตั้งอยู่ในทำเลย่านพระราม 2 สะดวกเข้าถึงง่าย และเปิดการสื่อสารสะดวกหลากหลายช่องทางสำหรับทุกเจนเนอเรชันทั้งผ่านระบบโทรศัพท์ โทร02-450-9999บริการคอนแทคเซ็นเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและออนไลน์แพลตฟอร์มทางเว็บไซต์www.nakornthon.com สามารถนัดหมายแพทย์เฉพาะทางและ บริการถาม-ตอบปัญหาสุขภาพผ่าน LINE official @Nakornthon Hospital และเฟซบุ๊กเพจ FB: Nakornthon Hospital บริการให้ข้อมูลรวมถึงติดตามข่าวสารและข้อมูลการรักษาเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้โรงพยาบาลยังเข้าถึงผู้รับบริการต่างชาติ(กลุ่มคนจีน) ผ่านทางเว็บไซต์ Weibo และ WeChat ตอบโจทย์คนในแต่ละพื้นที่บริการได้อย่างครบครัน ด้วยการดูแลอย่างเข้าใจดุจญาติมิตรทุกขั้นตอนจากการตรวจรักษาไปจนถึงการฟื้นฟูด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ มุ่งเน้นให้ความคุ้มค่าเหนือราคา