Lazada

กองทุนโอเปกอนุมัติเงินสนับสนุนการพัฒนาใหม่ทั่วโลกมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สร้างสถิติใหม่ กองทุนโอเปกเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (OPEC Fund for International Development) ได้อนุมัติเงินทุนใหม่มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการประชุมคณะกรรมการบริหารล่าสุดและในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565

โครงการใหม่ 15 โครงการที่ได้รับอนุมัติสืบเนื่องมาจากการที่กองทุนโอเปกเปิดตัวแผนปฏิบัติการความมั่นคงด้านอาหาร (Food Security Action Plan) มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำแผนปฏิบัติการด้านสภาพอากาศ (Climate Action Plan) โดยเฉพาะฉบับแรกมาใช้เมื่อต้นปีนี้ นอกจากนี้ ข้อตกลงใหม่จะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนเพื่อปรับปรุงชุมชนในประเทศพันธมิตรของกองทุนทั่วโลก

ดร. อับดุลฮามิด อัลคาลิฟา (Dr. Abdulhamid Alkhalifa) ผู้อำนวยการใหญ่กองทุนโอเปกกล่าวว่า “ในปีที่มีความท้าทายสูง กองทุนโอเปกสามารถเพิ่มการสนับสนุนและเพิ่มบทบาทอย่างมาก การอนุมัติใหม่ของเราจะจัดสรรเงินทุนที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนระดับโลก เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน และสภาพอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเรา ขณะเดียวกัน เราตระหนักถึงความจำเป็นในการเร่งสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อรับประกันการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทั่วโลก”

คณะกรรมการบริหารกองทุนโอเปกได้อนุมัติโครงการดังต่อไปนี้:

การส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานและพลังงานหมุนเวียน:

ไนเจอร์: เงินกู้มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และการปรับปรุงการเข้าถึงไฟฟ้าของไนเจอร์ (Niger Solar Plant Development and Electricity Access Improvement Project) จะเชื่อมต่อ 80,000 ครัวเรือนกับโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ ผ่านการก่อสร้างและการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์พีค (MWp) นอกจากนี้ กองทุนโอเปกยังจะร่วมทุนในการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าในภาคใต้ของประเทศและในเมืองหลวงนีอาเม

บังกลาเทศ: เงินกู้ภาคเอกชนมูลค่า 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 584 เมกะวัตต์ (MW) สร้างงานมากกว่า 1,000 ตำแหน่ง และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ

อุซเบกิสถาน: เงินกู้ภาคเอกชนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะนำไปสนับสนุนทางการเงินของทุ่งกังหันลมขนาด 500 เมกะวัตต์และสายส่งไฟฟ้า 160 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยให้ประเทศปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้ทันสมัย

อุซเบกิสถาน: เงินกู้ภาคเอกชนอีก 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะช่วยสนับสนุนเงินทุนสำหรับทุ่งกังหันลมขนาด 500 เมกะวัตต์และสายส่งไฟฟ้า 128 กิโลเมตร

แทนซาเนีย: วงเงินสินเชื่อ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการสายส่งเบนาโค-คยากา (Benaco-Kyaka Transmission Line Project) จะสนับสนุนการก่อสร้างสายส่งมากกว่า 160 กิโลเมตรและสถานีไฟฟ้าย่อย เพื่อให้บริการพลังงานที่เชื่อถือได้จากโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติไปยังภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

ความมั่นคงทางอาหาร:

เบนิน: เงินกู้เสริมมูลค่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรและการเข้าสู่ตลาด (Agricultural Development and Market Access Support Project) ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งคาดว่าจะให้ประโยชน์แก่ผู้คนมากกว่า 255,000 คน รวมถึงเกษตรกรรายย่อย โครงการนี้จะเพิ่มรายได้ของเกษตรกรและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการในพื้นที่ชนบท

ไลบีเรีย: เงินกู้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการเขตแปรรูปอุตสาหกรรมเกษตรพิเศษ (Special Agro-Industrial Processing Zone Project) จะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารและให้การสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME)

โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม การค้าระหว่างประเทศ และการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME):

แอฟริกา: เงินกู้ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีระดับภูมิภาคจะสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งทวีป

แอฟริกา: เงินกู้ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับสถาบันภาคเอกชนจะสนับสนุนการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรและปุ๋ยในหลายประเทศในแอฟริกา

โกตดิวัวร์: เงินกู้ตามโครงการมูลค่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะนำไปสนับสนุนด้านการเงินของโครงการสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Reform Support Program) การสนับสนุนงบประมาณมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปที่มุ่งให้การเข้าถึงโครงสร้างทางสังคมขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ด้อยโอกาส

แอฟริกา: เงินกู้ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับธนาคารเพื่อการพัฒนาระดับพหุภาคีระดับภูมิภาคจะสนับสนุนธุรกิจ SME และโครงการพลังงานสีเขียวในหลายประเทศในแอฟริกาตะวันตก

สาธารณรัฐคีร์กีซ: เงินกู้ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการบูรณะถนนซูซามีร์-ทาลาซ-ทาราซ (Reconstruction of the Suusamyr-Talas-Taraz Road Project) (เฟส 4) จะสนับสนุนการสร้างใหม่และอัปเกรดส่วนของทางเดินถนนความยาว 93 กม. ซึ่งเชื่อมต่อประเทศกับคาซัคสถานที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในภูมิภาค

มาดากัสการ์: แพ็กเกจทางการเงินมูลค่า 36.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้และเงินช่วยเหลือ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการการทำอาหารสุขอนามัยแห่งชาติ (National Clean Cooking Transition Program) จะช่วยให้มีการทำอาหารสะอาดแก่ครัวเรือนท้องถิ่น 200,000 ครัวเรือน และช่วยปลูกป่าทดแทน 1,500 เฮกตาร์

มอริเตเนีย: เงินกู้ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการน้ำประปาคิฟฟา (Kiffa Water Supply Project) จะสนับสนุนทางการเงินสำหรับโรงบำบัดน้ำ สถานีสูบน้ำ 4 แห่ง และท่อส่งน้ำยาวกว่า 300 กิโลเมตรเพื่อส่งน้ำดื่มไปยังคิฟฟา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศ และพื้นที่ชนบทโดยรอบ

บอตสวานา: เงินกู้ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะสนับสนุนสถาบันภาคเอกชนเพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยในท้องถิ่น โดยเฉพาะธุรกิจที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ

เกี่ยวกับกองทุนโอเปก

กองทุนโอเปกเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (OPEC Fund for International Development หรือ OPEC Fund) เป็นสถาบันเพื่อการพัฒนาระดับโลกเพียงแห่งเดียวที่จัดหาเงินทุนจากประเทศสมาชิกให้กับประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกโดยเฉพาะ องค์กรทำงานร่วมกับพันธมิตรประเทศกำลังพัฒนาและชุมชนการพัฒนาระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมในประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางทั่วโลก กองทุนโอเปกก่อตั้งขึ้นในปี 2519 โดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนการพัฒนา เสริมสร้างชุมชน และส่งเสริมผู้คน งานของเราเน้นคนเป็นศูนย์กลาง โดยให้ความสำคัญกับการจัดหาเงินทุนสนับสนุนโครงการที่ตอบสนองความต้องการที่จำเป็น เช่น อาหาร พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน (โดยเฉพาะในวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย) น้ำสะอาดและสุขาภิบาล การดูแลสุขภาพ และการศึกษา จนถึงปัจจุบัน กองทุนโอเปกได้มอบเงินทุนมากกว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับโครงการพัฒนาในกว่า 125 ประเทศ โดยมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 1.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ฟิทช์ (Fitch) ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทุนโอเปกไว้ที่ AA+/Outlook Stable ขณะที่เอสแอนด์พี (S&P) ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทุนโอเปกไว้ที่ AA/Outlook Positive ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างโลกที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนกลายเป็นความจริงสำหรับทุกคน

ติดต่อ:
บาซัก ปาเมียร์ (Basak Pamir)
โทร. +43151564174
อีเมล: B.Pamir@opecfund.org

โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/1899865/OPEC_Fund_Logo.jpg

TH.jpg

ข่าวประชาสัมพันธ์ถูกโพสต์ โดย: -

ทางเวป krapalm.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าว และการเขียนข่าวหรือโพสต์ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เว็บเป็นเพียงสื่อกลาง ที่เปิดให้เจ้าของข่าวประชาสัมพันธ์หรือตัวแทนโดยชอบธรรมได้โพสต์ด้วยตัวเอง หากข่าวมีความผิดพลาด หรือต้องการให้ลบ สามารถแจ้งทีมงานได้